ok15-165 ไบรโอซัว (Bryozoa)

ฟอสซิลไบรโอซัว (Bryozoa) เป็นซากดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในกลุ่มสัตว์น้ำที่อยู่กันเป็นอาณานิคม และมีประวัติยาวนานในมหาสมุทรและน้ำจืดกว่า 480 ล้านปี ไบรโอซัว หรือที่เรียกกันว่า “สัตว์ตะไคร่น้ำ” มีความโดดเด่นในเรื่องการสร้างโครงสร้างอาณานิคมที่ซับซ้อน ซึ่งกลายเป็นฟอสซิลได้ง่าย ด้านล่างนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะ ถิ่นที่อยู่อาศัย และยุคสมัยที่ไบรโอซัวมีชีวิตอยู่
ลักษณะเฉพาะ
ไบรโอซัวเป็นสัตว์ขนาดเล็กในไฟลัม Bryozoa ซึ่งมีลักษณะการอยู่ร่วมกันเป็นอาณานิคม แต่ละอาณานิคมประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เรียกว่า ซูออยด์ (zooid) ซึ่งมีโครงสร้างภายนอกทำจากแคลเซียมคาร์บอเนต ไคติน หรือสารเจลาติน โครงสร้างเหล่านี้เองที่มักกลายเป็นฟอสซิลคุณสมบัติสำคัญ
- โครงสร้างอาณานิคม อาณานิคมของไบรโอซัวมีรูปทรงหลากหลาย เช่น แบบกิ่งก้าน แบบปกคลุมพื้นผิว แบบคล้ายพัด หรือแบบทรงกลม ซึ่งสามารถพบเห็นในฟอสซิล
- การกรองอาหาร ซูออยด์แต่ละตัวมีหนวดที่เรียกว่า โลโฟฟอร์ (lophophore) สำหรับจับแพลงก์ตอนและอนุภาคอินทรีย์ในน้ำ
- ชีวิตแบบเกาะติด ไบรโอซัวส่วนใหญ่อยู่กับที่ โดยยึดตัวเองกับพื้นผิวแข็ง เช่น หิน เปลือกหอย หรือปะการัง
- ขนาดเล็กมาก ซูออยด์แต่ละตัวมีขนาดเล็กมาก (ปกติน้อยกว่า 1 มม.) แต่เมื่อรวมกันเป็นอาณานิคมอาจมีขนาดใหญ่ได้
ไบรโอซัวสืบพันธุ์ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศช่วยให้อาณานิคมเติบโตได้รวดเร็ว ขณะที่การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศช่วยเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม

ถิ่นที่อยู่อาศัย
ถิ่นที่อยู่อาศัยของไบรโอซัว ไบรโอซัวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทะเล แม้ว่าบางชนิดจะพบในแหล่งน้ำจืด
ถิ่นที่อยู่ในทะเล
- ทะเลตื้น ไบรโอซัวส่วนใหญ่เจริญเติบโตในทะเลตื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแสงแดดและสารอาหาร
- แนวปะการัง ไบรโอซัวหลายชนิดช่วยสร้างแนวปะการังหรืออาศัยอยู่ร่วมกับปะการัง
- ไหล่ทวีป ไบรโอซัวมักเกาะอยู่บนหินหรือเปลือกหอยที่พื้นทะเล
ถิ่นที่อยู่ในน้ำจืด
- ไบรโอซัวบางชนิดปรับตัวให้อยู่น้ำจืด เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ และบึง โดยมักเกาะอยู่บนไม้พุ่ม พืชน้ำ หรือหินใต้น้ำ

ยุคสมัยที่ไบรโอซัวมีชีวิตอยู่
ไบรโอซัวปรากฏครั้งแรกในช่วง ยุคออร์โดวิเชียน (Ordovician Period) (ประมาณ 480 ล้านปีก่อน) และดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน ไฮไลต์ในบันทึกฟอสซิล
- ยุคออร์โดวิเชียนถึงดีโวเนียน (485–359 ล้านปีก่อน)ไบรโอซัวมีความหลากหลายสูงสุดในยุคนี้ โดยมีการพัฒนาโครงสร้างอาณานิคมที่หลากหลาย
- ยุคคาร์บอนิเฟอรัส (359–299 ล้านปีก่อน) ไบรโอซัวมีบทบาทสำคัญในการสร้างหินปูนและแนวปะการัง
- ยุคเพอร์เมียน (299–252 ล้านปีก่อน) การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ทำให้ความหลากหลายของไบรโอซัวลดลง แต่บางชนิดสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ในยุคเมโซโซอิก
- ยุคปัจจุบัน แม้จะมีความหลากหลายน้อยลงเมื่อเทียบกับยุคพาลีโอโซอิก ไบรโอซัวยังคงมีความสำคัญในระบบนิเวศทางทะเล
เพิ่มเติม : กฏ 8 ข้อ การลำดับเรื่องราวทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นบนโลก
เพิ่มเติม : ฟอสซิลและวิธีการเกิดฟอสซิล
เพิ่มเติม : ธรณีกาล : กาลเวลาทางธรณีวิทยา
เพิ่มเติม : มหายุคพรีแคมเบียน – มหายุคแห่งการจัดแจงโลกและสิ่งมีชีวิต
เพิ่มเติม : มหายุคพาลีโอโซอิก – เมื่อสิ่งมีชีวิตเริ่มรุกขึ้นบก
เพิ่มเติม : มหายุคมีโซโซอิก – ยุคทองของ ไดโนเสาร์
เพิ่มเติม : มหายุคซีโนโซอิก – มหายุคแห่งนม
กระบวนการกลายเป็นฟอสซิล
ไบรโอซัวมักกลายเป็นฟอสซิลได้ง่าย เนื่องจากโครงสร้างภายนอกของพวกมันทำจากแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงในตะกอน ฟอสซิลไบรโอซัวมักปรากฏในรูปแบบดังนี้
- ลวดลายปกคลุม พบอยู่บนเปลือกหอยหรือหิน โดยแสดงลวดลายของการเติบโตของอาณานิคม
- โครงสร้างสามมิติ เช่น อาณานิคมแบบกิ่งก้านหรือแบบพัด ซึ่งมักถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี
- ชิ้นส่วนแยกออกมา เช่น โครงสร้างช่องเล็กๆ ที่ซูออยด์อาศัยอยู่ (zooecial chambers)

Cristatella mucedo (Cuvier) = Cristatella mucedo Cuvier 1798
statoblast ระยะยังไม่เจริญเต็มที่ (immature statoblast)
statoblast ระยะเจริญเต็มที่ (mature statoblast)
โคโลนีวัยอ่อน (young colony)
โคโลนีโตเต็มที่ (mature colony)
โคโลนีโตเต็มที่ในภาพตัดขวาง (mature colony in cross-section)
Plumatella repens (Lamarck) = Plumatella repens (Linnaeus 1758)
individual ก่อนการสร้างโคโลนี (individual before colony formation)
โคโลนีวัยอ่อน (young colony)
บางส่วนของโคโลนีวัยอ่อน (part of young colony)
Alcyonella flabellum (Van Beneden) = Plumatella fungosa (Pallas 1768)
โคโลนีวัยอ่อน (young colony)
Lophopus crystallinus (Dumortier) = Cristatella mucedo Cuvier 1798
โคโลนีวัยอ่อน (young colony)
ตัว 개체ที่กำลังพัฒนาในโคโลนีระยะอ่อน (young developing individual in colony)
ตัว 개체ที่กำลังพัฒนาในโคโลนีระยะโตขึ้น (older developing individual in colony) (ที่มา : https://th.wikipedia.org)
ความสำคัญทางธรณีวิทยา
ฟอสซิลไบรโอซัวมีบทบาทสำคัญในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางทะเลในอดีต
- สภาพแวดล้อมทะเลตื้น ไบรโอซัวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้ำทะเลใสที่มีสารอาหารอุดมสมบูรณ์
- การก่อตัวของหินปูน ฟอสซิลไบรโอซัวมีบทบาทสำคัญในการสร้างหินปูนขนาดใหญ่
- ตัวบ่งชี้สภาพแวดล้อมในอดีต รูปแบบต่างๆ ของไบรโอซัวสามารถเผยถึงอุณหภูมิ ความเค็ม และสภาพตะกอนของทะเลในอดีต
ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
ฟอสซิลไบรโอซัวช่วยให้เกิดความเข้าใจในหลากหลายด้าน เช่น
- วิวัฒนาการ ไบรโอซัวเป็นตัวอย่างแรกๆ ของการดำรงชีวิตแบบอาณานิคม และช่วยในการศึกษาการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน
- นิเวศวิทยาในอดีต โครงสร้างและการกระจายตัวของอาณานิคมไบรโอซัวเผยให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศในทะเลโบราณ
- ธรณีวิทยา การมีส่วนช่วยในการสร้างแนวปะการังและตะกอนหินปูนช่วยให้นักธรณีวิทยาสามารถสร้างภาพสิ่งแวดล้อมในอดีตได้
แหล่งฟอสซิลไบรโอซัว
ฟอสซิลไบรโอซัวพบได้ทั่วโลก โดยมีแหล่งสำคัญดังนี้
- สหรัฐอเมริกา (มิดเวสต์) มีฟอสซิลไบรโอซัวยุคออร์โดวิเชียนและคาร์บอนิเฟอรัสที่อุดมสมบูรณ์
- ยุโรป พบฟอสซิลไบรโอซัวในหินปูนยุคพาลีโอโซอิก
- ออสเตรเลีย พบฟอสซิลไบรโอซัวในตะกอนยุคเพอร์เมียนและเซโนโซอิก
สรุป ฟอสซิลไบรโอซัวไม่ได้เป็นเพียงซากดึกดำบรรพ์ที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์ของระบบนิเวศในทะเล โครงสร้างที่ซับซ้อนและบทบาทในธรณีวิทยาแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กกลุ่ม
นี้ในประวัติศาสตร์โลก ไม่ว่าจะในฐานะเครื่องมือวิจัยหรือชิ้นส่วนที่งดงามตามธรรมชาติ ไบรโอซัวยังคงเป็นสิ่งที่น่าหลงใหลสำหรับนักวิทยาศาสตร์และนักสะสมทั่วโลก
. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth