เรียนรู้

ธรณีกาล : กาลเวลาทางธรณีวิทยา

ธรณีกาล (geological time scale) คือ การแบ่งย่อยเหตุการณ์หรืออายุทางธรณีวิทยาตามช่วงเวลาต่างๆ โดยนักธรณีวิทยาได้จำแนกและจัดหมวดหมู่กาลเวลาตลอดอายุขัยของโลกออกเป็นช่วงๆ ตามหน่วยเวลาย่อยๆ ดังนี้

ธรณีกาล หรือ ตารางเวลาทางธรณีวิทยา

1) บรมยุค (Eon)

บรมยุค (eon) เป็นหน่วยเวลาที่ใหญ่ที่สุดในทางธรณีกาล โดยตลอดช่วงอายุ 4,600 ล้านปี ของโลก ประกอบด้วย 4 บรมยุค ได้แก่

1) บรมยุคฮาเดียน (Hadean Eon) ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ 4,600-3,800 ล้านปี โดยในช่วงแรกโลกมีอุณหภูมิสูงมาก ต่อมาผิวนอกเริ่มเย็นตัว ภูเขาไฟปะทุจำนวนมาก บรรยากาศปกคลุมด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไอน้ำ ที่ปล่อยออกมาจากการปะทุของภูเขาไฟ

สภาพการณ์ของบรมยุคฮาเดียน จากการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์ (ที่มา : www.wikiwand.com)

2) บรมยุคอาร์เคียน (Archean Eon) ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ 3,800-2,500 ล้านปี แผ่นเปลือกโลกเกิด การหลอมละลายบางส่วน (partial melting) และ การแยกลำดับส่วน (fractionation) ทำให้แร่เหล็กและแร่นิกเกิล ซึ่งมีความหนาแน่นสูงจมตัวลงไปที่แก่นโลก เกิดแมกมาที่มีสัดส่วนของแร่ซิลิกาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องบนพื้นผิวโลก

สภาพการณ์ของบรมยุคอาร์เคียน จากการวิเคราะห์ของนักธรณีวิทยา (ที่มา : www.pinterest.com)

3) บรมยุคโพรเทอโรโซอิก (Proterozoic Eon) ครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ 2,500-545 ล้านปี โลกเย็นตัวลง และเกิด ยุคน้ำแข็ง (ice age) หลายครั้งในทุกๆ หลายร้อยล้านปี แผ่นเปลือกโลกมีการผุพัง เกิดตะกอนและมีการพัดพาตะกอนจากพื้นทวีปลงสู่มหาสมุทร สิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรแพร่พันธุ์เพิ่มขึ้นและมีวิวัฒนาการขึ้นมาบนบก เกิดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า สโตรมาโตไลต์ (stromatolite) ตามแนวชายฝั่ง ในช่วง 1,600 ล้านปี เกิด สิ่งมีชีวิตแบบไม่มีเยื้อหุ้มนิวเคลียส (prokaryote) และช่วง 800 ล้านปี เกิดสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์

สโตรมาโตไลต์ (ที่มา : www.sharkbayvisit.com.au)

ถึงแม้ว่านักธรณีวิทยาจะแบ่งช่วงเวลาในอดีตของโลกออกเป็น 4 บรมยุค ได้แก่ 1) บรมยุคฮาเดียน (Hadean Eon) 2) บรมยุคอาร์เคียน (Archean Eon) 3) บรมยุคโพรเทอโรโซอิก (Proterozoic Eon) และ 4) บรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic Eon) แต่เนื่องจากใน 3 บรมยุคแรกนั้น พบเฉพาะสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำขนาดเล็ก และไม่มีหลักฐานฟอสซิลปรากฏมากนัก บางครั้งนักธรณีวิทยาจึงเรียกเหมารวมทั้ง 3 บรมยุค นี้ว่า บรมยุคพรีแคมเบียน (Precambrian)

บรมยุคพรีแคมเบียน (Precambrian) = บรมยุคฮาเดียน + บรมยุคอาร์เคียน + บรมยุคโพรเทอโรโซอิก

เพิ่มเติม : มหายุคพรีแคมเบียน – มหายุคแห่งการจัดแจงโลกและสิ่งมีชีวิต

4) บรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic Eon) เป็นบรมยุคล่าสุด เริ่มเมื่อประมาณ 545 ล้านปี ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน สืบเนื่องจากนักธรณีวิทยาค้นพบหลักฐานทางธรณีวิทยาจำนวนมาก จึงสามารถแบ่งย่อยช่วงเวลาของบรมยุคฟาเนอโรโซอิกออกเป็น 3 มหายุค (era) ได้แก่ 1) มหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic era) ครอบคลุมช่วงเวลา 545-245 ล้านปี 2) มหายุคเมโสโซอิก (Mesozoic era) ครอบคลุมช่วงเวลา 245-65 ล้านปี และ 3) มหายุคซีโนโซอิก (Cenozoic era) ครอบคลุมช่วงเวลา 65 ล้านปี ถึงปัจจุบัน

สิ่งมีชีวิตที่ครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่บนโลกในช่วงมหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic era) ของบรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic Eon) (ซ้าย) แอมโมไนต์ (ขวา) ฉลาม (ที่มา : www.coinsweekly.com; www.lazerhorse.org)

เพิ่มเติม : มหายุคพาลีโอโซอิก – เมื่อสิ่งมีชีวิตเริ่มรุกขึ้นบก

2) มหายุค (Era)

มหายุค (era) เป็นหน่วยที่แยกย่อยมาจากหน่วย บรมยุค (eon) ซึ่งแบ่งรายละเอียดได้อย่างชัดเจนในบรมยุคล่าสุด คือ บรมยุคฟาเนอโรโซอิก โดยแบ่งย่อยเป็น 3 มหายุค คือ 1) มหายุคพาลีโอโซอิก (Paleozoic Era) เป็นมหายุคที่เก่าแก่ที่สุดในบรมยุคฟาเนอโรโซอิก อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 545-245 ล้านปี ที่ผ่านมา 2) มหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic Era) เป็นมหายุคในช่วงกลางของบรมยุคฟาเนอโรโซอิก อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 245-65 ล้านปี ที่ผ่านมา และ 3) มหายุคซีโนโซอิก (Cenozoic Era) ซึ่งเป็นมหายุคปัจจุบัน เริ่มต้นเมื่อประมาณ 65 ล้านปี ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน

ความหลากหลายของสายพันธุ์และวิวัฒนาการของไดโนเสาร์ใน มหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic Era)

เพิ่มเติม : มหายุคมีโซโซอิก – ยุคทองของ ไดโนเสาร์

เหตุการณ์การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ ถูกใช้เป็นตัวแบ่ง มหายุคมีโซโซอิก ออกจาก มหายุคซีโนโซอิก

ตารางธรณีการในช่วงบรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic Eon) (ที่มา : www.britannica.com)

3) ยุค (Period)

ยุค (period) เป็นหน่วยย่อยที่แยกออกมาจากหน่วย มหายุค (era) ซึ่งนิยมแบ่งย่อยใช้มากที่สุดในช่วงบรมยุคฟาเนอโรโซอิก โดยประกอบด้วย 12 ยุค คือ 1) แคมเบรียน (Cambrian) 2) ออร์โดวิเชียน (Ordovician) 3) ไซลูเรียน (Silurian) 4) ดีโวเนียน (Devonian) 5) คาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferous) 6) เพอร์เมียน (Permian) 7) ไทรแอสซิก (Triassic) 8) จูแรสซิก (Jurassic) 9) ครีเทเชียส (Cretaceous) 10) พาลีโอจีน (Paleogene) 11) นีโอจีน (Neogene) และ 12) ควอเทอร์นารี (Quaternary)

ป่าปัจจุบันทีมีสภาพแวดล้อมคล้ายกับป่าเฟิร์นที่ลุ่มต่ำชื้นแฉะใน ยุคคาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferous Period) (ที่มา : www.nature.org)

4) สมัย (Epoch)

สมัย (epoch) เป็นหน่วยที่แยกย่อยมาจากหน่วย ยุค (period) ซึ่งมีการกำหนดเฉพาะในมหายุคยุคซีโนโซอิก (ยุคพาลีโอจีน นีโอจีน และควอเทอร์นารี) เท่านั้น โดยแบ่งย่อยเป็น 7 สมัย คือ 1) พาลีโอซีน (Paleocene) 2) อีโอซีน (Eocene) 3) โอลิโกซีน (Oligocene) 4) ไมโอซีน (Miocene) 5) ไพลโอซีน (Pliocene) 6) ไพลสโตซีน (Pleistocene) และ 7) โฮโลซีน (Holocene)

ตารางธรณีการในช่วงมหายุคซีโนโซอิก (Cenozoic Era) (ที่มา : www.britannica.com)

ยุคควอเทอร์นารี แบ่งย่อยเป็น สมัยไพลสโตซีน และ สมัยโฮโลซีน โดยสมัยไพลสโตซีนเริ่มต้นเมื่อธารน้ำแข็งขนาดใหญ่เคลื่อนตัวลงมาจากขั้วโลกเหนือ ลงมาปกคลุมทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป กลายเป็น ยุคน้ำแข็ง (ice age) ส่วนสมัยโฮโลซีนเริ่มต้นเมื่อธารน้ำแข็งดังกล่าวถดถอยไปจากทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรป ซึ่งเริ่มถดถอยเมื่อ 10,000 ปี ที่ผ่านมา

(ซ้าย) ภาพจำลอง และ (ขวา) โครงกะโหลก เสือเขี้ยวดาบ หรือ สไมโลดอน (Smilodon) ในสมัยไพลสโตซีน (Pleistocene Epoch)

เพิ่มเติม : มหายุคซีโนโซอิก – มหายุคแห่งนม

นอกจากนี้ นักธรณีวิทยายังสามารถแบ่งย่อย สมัย (epoch) ลงไปอีกเป็นหน่วย 5) ระยะ (stage) และ 6) อายุ (age) แต่ก็เป็นเพียงการแบ่งย่อยในบางสมัย เพื่อใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัยทางธรณีวิทยาด้านใดด้านหนึ่ง โดยรายละเอียดเท่านั้น เช่นการศึกษา สนามแม่เหล็กโลกบรรพกาล (paleomagnetic study) เป็นต้น

เพิ่มเติม : การหาอายุทางธรณีวิทยาและโบราณคดีจากสัญญาณสนามแม่เหล็กโลกบรรพกาล

ตัวอย่างตารางมาตรฐานสภาวะแม่เหล็กโลกในช่วง (ซ้าย) มหายุคมีโซโซอิก-ซีโนโซอิก (ขวา) สมัยไมโอซีน-สมัยไพลสโตซีน (Cande และ Kent, 1995) สีขาว คือ ขั้วแม่เหล็กปกติ (normal polarity) ส่วน สีดำ คือ หรือ ขั้วแม่เหล็กย้อนกลับ (reverse polarity)

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth

Share: