หอยฝาเดียว (Gastropod)

หอยฝาเดียว (Gastropod) หรือที่รู้จักกันในชื่อ หอยทาก และ ทาก เป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์มอลลัสก์ที่มีความหลากหลายมากที่สุด และมีบันทึกฟอสซิลที่ยาวนานนับร้อยล้านปี ฟอสซิลเหล่านี้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับระบบนิเวศในอดีตและกระบวนการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
หอยฝาเดียว (Gastropod) มีลักษณะเด่นคือ เปลือกที่มีลักษณะเป็นเกลียว แม้ว่าสัตว์ในกลุ่มนี้บางชนิด เช่น ทาก จะไม่มีเปลือกก็ตาม เปลือกของหอยฝาเดียวส่วนใหญ่มักมีการม้วนเกลียวแบบไม่สมมาตร ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการ torsion หรือการหมุนของส่วนอวัยวะภายใน 180 องศา ระหว่างการพัฒนา ทำให้อวัยวะบางส่วน เช่น ทวารหนักและช่องเสื้อคลุม อยู่ในตำแหน่งด้านบนของศีรษะในตัวเต็มวัย
เปลือกของหอยฝาเดียวส่วนใหญ่ทำจาก แคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งทำให้สามารถคงอยู่ในรูปฟอสซิลได้ดี ฟอสซิลเปลือกหอยเหล่านี้มีรูปทรงที่หลากหลาย เช่น เกลียวสูง เกลียวต่ำ และทรงกลมแบน รวมถึงขนาดที่แตกต่างกันตั้งแต่ ระดับไมโครสโคป (microscope) จนถึงหลายเซนติเมตร บางชนิดมีลวดลาย เช่น ซี่โครง หนาม หรือร่อง ซึ่งอาจใช้เพื่อป้องกันตัวหรือเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง
เพิ่มเติม : ธรณีกาล : กาลเวลาทางธรณีวิทยา

ที่อยู่อาศัย
หอยฝาเดียว (Gastropod) มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับระบบนิเวศที่หลากหลายอย่าง พบได้ทั้งในทะเล น้ำจืด และบนบก ฟอสซิลแสดงให้เห็นว่าหอยฝาเดียวมีต้นกำเนิดในแหล่งน้ำทะเล และได้ขยายไปสู่น้ำจืดและพื้นดินในภายหลัง
ในทะเล หอยฝาเดียวมักอาศัยอยู่ในทะเลตื้นที่อบอุ่น บางชนิดฝังตัวอยู่ในทรายหรือเกาะติดกับหินและแนวปะการัง พวกมันกินสาหร่ายเป็นอาหาร บางชนิดเป็นผู้ล่าหรือกินซากสัตว์ สำหรับหอยฝาเดียวในน้ำจืดมักอาศัยอยู่ในแม่น้ำ ทะเลสาบ และพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งสามารถปรับตัวเข้ากับความเค็มและระดับออกซิเจนที่เปลี่ยนแปลงได้ ส่วนหอยฝาเดียวบนบก ซึ่งปรากฏในเวลาต่อมา มักพบในพื้นที่ป่าและชื้น โดยกินเศษซากอินทรีย์และพืชเป็นอาหาร
เพิ่มเติม : กฏ 8 ข้อ การลำดับเรื่องราวทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นบนโลก

ช่วงเวลาที่มีชีวิตบนโลก
หอยฝาเดียว (Gastropod) มีมาตั้งแต่ ยุคแคมเบรียน (ประมาณ 540 ล้านปีก่อน) โดยมีบรรพบุรุษที่สืบสายมาจากไฟลัมมอลลัสกา และมีการพัฒนาสายพันธุ์ที่สำคัญในมหายุคพาลีโอโซอิก ภายในยุคดีโวเนียน (419–359 ล้านปีก่อน) สายพันธุ์หอยฝาเดียวส่วนใหญ่ที่พบในปัจจุบันได้ปรากฏขึ้นแล้ว
ในมหายุคมีโซโซอิก โดยเฉพาะช่วงจูราสสิกและครีเทเชียส มีการวิวัฒนาการเพิ่มเติม ซึ่งทำให้พวกมันสามารถขยายไปยังถิ่นที่อยู่ใหม่ เช่น บนบก หอยฝาเดียวยังสามารถรอดพ้นจากเหตุการณ์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในช่วงครีเทเชียส-พาลีโอจีน (66 ล้านปีก่อน) ซึ่งทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ และยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน แสดงถึงความสามารถในการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม
เพิ่มเติม : ฟอสซิลและวิธีการเกิดฟอสซิล

ฟอสซิลหอยฝาเดียว
ฟอสซิลหอยฝาเดียว พบได้ทั่วไปและกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ทำให้พวกมันเป็นฟอสซิลสำคัญสำหรับการระบุอายุของชั้นหินทางธรณีวิทยา นอกจากนี้ ฟอสซิลเหล่านี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศในอดีต เช่น อุณหภูมิและความเค็ม ผ่านการวิเคราะห์ไอโซโทปจากเปลือกหอย นอกจากนี้ ประวัติวิวัฒนาการของหอยฝาเดียวยังช่วยให้เข้าใจการพัฒนาของระบบนิเวศและความสัมพันธ์ทางนิเวศวิทยาตลอดช่วงเวลาทางธรณีวิทยา
โดยสรุป ฟอสซิลหอยฝาเดียว เป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจทั้งประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบนิเวศในอดีต รูปแบบที่หลากหลายและการคงอยู่มายาวนานแสดงถึงความสำเร็จในการปรับตัวและวิวัฒนาการของพวกมันตลอดหลายร้อยล้านปี
เพิ่มเติม : มหายุคพรีแคมเบียน – มหายุคแห่งการจัดแจงโลกและสิ่งมีชีวิต
เพิ่มเติม : มหายุคพาลีโอโซอิก – เมื่อสิ่งมีชีวิตเริ่มรุกขึ้นบก
เพิ่มเติม : มหายุคมีโซโซอิก – ยุคทองของ ไดโนเสาร์
เพิ่มเติม : มหายุคซีโนโซอิก – มหายุคแห่งนม
. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth