หอยฝาเดียว (Gastropod) หรือที่รู้จักกันในชื่อ หอยทาก และ ทาก เป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์มอลลัสก์ที่มีความหลากหลายมากที่สุด และมีบันทึกฟอสซิลที่ยาวนานนับร้อยล้านปี ฟอสซิลเหล่านี้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับระบบนิเวศในอดีตและกระบวนการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

หอยฝาเดียว (Gastropod) มีลักษณะเด่นคือ เปลือกที่มีลักษณะเป็นเกลียว แม้ว่าสัตว์ในกลุ่มนี้บางชนิด เช่น ทาก จะไม่มีเปลือกก็ตาม เปลือกของหอยฝาเดียวส่วนใหญ่มักมีการม้วนเกลียวแบบไม่สมมาตร ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการ torsion หรือการหมุนของส่วนอวัยวะภายใน 180 องศา ระหว่างการพัฒนา ทำให้อวัยวะบางส่วน เช่น ทวารหนักและช่องเสื้อคลุม อยู่ในตำแหน่งด้านบนของศีรษะในตัวเต็มวัย

เปลือกของหอยฝาเดียวส่วนใหญ่ทำจาก แคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งทำให้สามารถคงอยู่ในรูปฟอสซิลได้ดี ฟอสซิลเปลือกหอยเหล่านี้มีรูปทรงที่หลากหลาย เช่น เกลียวสูง เกลียวต่ำ และทรงกลมแบน รวมถึงขนาดที่แตกต่างกันตั้งแต่ ระดับไมโครสโคป (microscope) จนถึงหลายเซนติเมตร บางชนิดมีลวดลาย เช่น ซี่โครง หนาม หรือร่อง ซึ่งอาจใช้เพื่อป้องกันตัวหรือเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง

เพิ่มเติม : ธรณีกาล : กาลเวลาทางธรณีวิทยา

ความหลากหลายของรูปร่างเปลือกในหอยฝาเดียวทะเลบางชนิด เรียงตามเข็มนาฬิกาจากมุมซ้ายบน • Calliostoma antonii จากชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศปานามา • Columbella strombiformis (หอยนกเขา) จากนอกชายฝั่งใกล้ซานคาร์ลอส ประเทศเม็กซิโก • Natica elenae (หอยมูนสเนล) จากอ่าวปานามา • Oliva peruviana จากน้ำตื้นใกล้เมืองอิกีเก ประเทศชิลี • Guildfordia triumphans (หอยเทอร์บินิด) จากจังหวัดวาคายามะ ประเทศญี่ปุ่น • Vokesimurex elenensis (หอยมูริซิด) จากชายฝั่งแปซิฟิกของประเทศเม็กซิโก •Epitonium scalare (หอยเวนเทิลแทร็ป) จากประเทศฟิลิปปินส์ • Pteropurpura trialata (หอยมูริซิดอีกชนิดหนึ่ง) จากนอกชายฝั่งใกล้ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ที่มา : https://ucmp.berkeley.edu)

ที่อยู่อาศัย

หอยฝาเดียว (Gastropod) มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับระบบนิเวศที่หลากหลายอย่าง พบได้ทั้งในทะเล น้ำจืด และบนบก ฟอสซิลแสดงให้เห็นว่าหอยฝาเดียวมีต้นกำเนิดในแหล่งน้ำทะเล และได้ขยายไปสู่น้ำจืดและพื้นดินในภายหลัง

ในทะเล หอยฝาเดียวมักอาศัยอยู่ในทะเลตื้นที่อบอุ่น บางชนิดฝังตัวอยู่ในทรายหรือเกาะติดกับหินและแนวปะการัง พวกมันกินสาหร่ายเป็นอาหาร บางชนิดเป็นผู้ล่าหรือกินซากสัตว์ สำหรับหอยฝาเดียวในน้ำจืดมักอาศัยอยู่ในแม่น้ำ ทะเลสาบ และพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งสามารถปรับตัวเข้ากับความเค็มและระดับออกซิเจนที่เปลี่ยนแปลงได้ ส่วนหอยฝาเดียวบนบก ซึ่งปรากฏในเวลาต่อมา มักพบในพื้นที่ป่าและชื้น โดยกินเศษซากอินทรีย์และพืชเป็นอาหาร

เพิ่มเติม : กฏ 8 ข้อ การลำดับเรื่องราวทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นบนโลก

ฟอสซิลหอยฝาเดียว Trochonema beloitense จากยุคออร์โดวิเชียนตอนกลาง (Middle Ordovician) มีความกว้าง 1.15 นิ้ว ฟอสซิลนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันเก่าที่ขุดพบจากชั้นหิน Grand Detour Formation บริเวณเมืองเบลอยต์ รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา หอยฝาเดียวหรือหอยทาก เป็นสัตว์ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ยุคแคมเบรียนตอนปลาย (Late Cambrian) กลุ่มสิ่งมีชีวิตในชั้น Gastropoda นี้มีจำนวนชนิดที่ได้รับการตั้งชื่อแล้วเป็นจำนวนมาก เป็นรองเพียงแมลงเท่านั้น ในด้านความหลากหลายโดยรวม โดยปัจจุบันมีการจำแนกวงศ์ของหอยฝาเดียวไว้ทั้งหมด 611 วงศ์ ซึ่งในจำนวนนี้ 202 วงศ์ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว และพบเฉพาะในบันทึกทางฟอสซิลเท่านั้น (ที่มา : www.fossilera.com)

ช่วงเวลาที่มีชีวิตบนโลก

หอยฝาเดียว (Gastropod) มีมาตั้งแต่ ยุคแคมเบรียน (ประมาณ 540 ล้านปีก่อน) โดยมีบรรพบุรุษที่สืบสายมาจากไฟลัมมอลลัสกา และมีการพัฒนาสายพันธุ์ที่สำคัญในมหายุคพาลีโอโซอิก ภายในยุคดีโวเนียน (419–359 ล้านปีก่อน) สายพันธุ์หอยฝาเดียวส่วนใหญ่ที่พบในปัจจุบันได้ปรากฏขึ้นแล้ว

ในมหายุคมีโซโซอิก โดยเฉพาะช่วงจูราสสิกและครีเทเชียส มีการวิวัฒนาการเพิ่มเติม ซึ่งทำให้พวกมันสามารถขยายไปยังถิ่นที่อยู่ใหม่ เช่น บนบก หอยฝาเดียวยังสามารถรอดพ้นจากเหตุการณ์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในช่วงครีเทเชียส-พาลีโอจีน (66 ล้านปีก่อน) ซึ่งทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ และยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน แสดงถึงความสามารถในการปรับตัวที่ยอดเยี่ยม

เพิ่มเติม : ฟอสซิลและวิธีการเกิดฟอสซิล

ความหลากหลายของรูปทรงเปลือกหอยในกลุ่มหลักของหอยฝาเดียวยุคพาลีโอโซอิกตอนกลาง (a) เปลือกทรงสูง: Murchisonia coronata (วงศ์ Murchisonioidea) (b) เปลือกรูปกรวยทรงกลีบ มีร่องเปิด (slit): Devonorhineoderma orbignyana (วงศ์ Eotomarioidea) (c) เปลือกสมมาตรสองข้าง มีแนวสลีนิโซน (selenizone) เด่นชัด: Kolihadiscus tureki (วงศ์ Cyrtolitoidea) (d) เปลือกรูปทรงเทอร์บิน: Gyronema armata (วงศ์ Gyronematidae) (e) เปลือกขดเวียนแบบเปิด: Pragoserpulina tomasi (วงศ์ Pragoserpulinidae) (f) เปลือกรูปจาน (ดิสก์): Stusakia pulchra (g) เปลือกขดเวียนทางซ้าย (sinistral): Voskopiella barborae (วงศ์ Onychochilidae) (h) เปลือกรูปทรงคล้ายหอยนาติคา (naticiform): Eifelcyrtus blodgetti (วงศ์ Vltavielidae) (i) เปลือกรูปทรงกระสวย (fusiform): Havlicekiela parvula (วงศ์ Peruneloidea) (j) เปลือกทรงสูง: Pragozyga costata (k) เปลือกทรงสูง: Palaeozygopleura bohemica (วงศ์ Loxonematoidea) (l, m) เปลือกสมมาตรสองข้าง: Bellerophon vasulites (วงศ์ Bellerophontoidea) (n) รูปทรงคล้ายหอยฝาเดียว (limpet): Pragoscutula wareni (วงศ์ Pragoscutulidae) (o) เปลือกขดเวียนทางซ้าย: Alaskiella medfraensis (วงศ์ Porcellioidea) (p) เปลือกรูปจาน (ดิสก์): Nodeuomphalus labadyei (วงศ์ Euomphaloidea) (q) เปลือกสมมาตรสองข้างที่ปกคลุมด้วยเปลือกรองเพิ่มเติม: Branzovodiscus bajae (วงศ์ Bellerophontoidea) (ที่มา : www.sciencedirect.com)

ฟอสซิลหอยฝาเดียว

ฟอสซิลหอยฝาเดียว พบได้ทั่วไปและกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ทำให้พวกมันเป็นฟอสซิลสำคัญสำหรับการระบุอายุของชั้นหินทางธรณีวิทยา นอกจากนี้ ฟอสซิลเหล่านี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศในอดีต เช่น อุณหภูมิและความเค็ม ผ่านการวิเคราะห์ไอโซโทปจากเปลือกหอย นอกจากนี้ ประวัติวิวัฒนาการของหอยฝาเดียวยังช่วยให้เข้าใจการพัฒนาของระบบนิเวศและความสัมพันธ์ทางนิเวศวิทยาตลอดช่วงเวลาทางธรณีวิทยา

โดยสรุป ฟอสซิลหอยฝาเดียว เป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจทั้งประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระบบนิเวศในอดีต รูปแบบที่หลากหลายและการคงอยู่มายาวนานแสดงถึงความสำเร็จในการปรับตัวและวิวัฒนาการของพวกมันตลอดหลายร้อยล้านปี

เพิ่มเติม : มหายุคพรีแคมเบียน – มหายุคแห่งการจัดแจงโลกและสิ่งมีชีวิต

เพิ่มเติม : มหายุคพาลีโอโซอิก – เมื่อสิ่งมีชีวิตเริ่มรุกขึ้นบก

เพิ่มเติม : มหายุคมีโซโซอิก – ยุคทองของ ไดโนเสาร์

เพิ่มเติม : มหายุคซีโนโซอิก – มหายุคแห่งนม

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth

Share: