วิจัย

รอยเลื่อนสะกาย กลางพม่า เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวใหญ่

ในบรรดารอยเลื่อนมีพลังที่พวกเรารู้จักกันในภูมิภาคอาเซียน ผมพยายามสื่อสารสู่สาธารณะหลายครั้งว่า รอยเลื่อนสกาย (Sagaing Fault) ที่ผ่าอกกลางประเทศพม่า เป็นรอยเลื่อนที่ไม่ธรรมดา เพราะจากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวในอดีต รอยเลื่อนนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ถึง 8.0 เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว (วันที่ 23 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2455) จึงถือว่าเกินคาดเกินราคา กับการเป็นรอยเลื่อนหรือรอยแตกภายในแผ่นเปลือกโลก (intra-plate earthquake source) โดยรายละเอียดพฤติกรรมการเกิดแผ่นดินไหวของรอยเลื่อนสกาย สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ บทความ รอยเลื่อนสะกาย – ยักษ์หลับกลางเมืองพม่า

ซึ่งด้วยความระแวงในความเงียบของสะกายมานานพอสมควร Pailoplee (2013) ได้วิเคราะห์การกระจายตัวเชิงพื้นที่ของ ค่า b ตามแนวรอยเลื่อนสะกาย ตอนกลางของประเทศพม่า เพื่อที่จะวิเคราะห์แรงเค้นทางธรณีแปรสัณฐานในแต่ละพื้นที่ตามแนวรอยเลื่อนสะกาย โดยงานวิจัยนี้ได้นำข้อมูลแผ่นดินไหวที่สังเคราะห์ให้สื่อถึงนิสัยของรอยเลื่อนสะกายเรียบร้อยแล้ว และแบ่งออกเป็น 3 ชุดข้อมูล เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการประเมินพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอนาคต ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าในกรณีของข้อมูลแผ่นดินไหวในช่วงปี ค.ศ. 1980-2000 (รูป ก) พบพื้นที่แสดงค่า b ต่ำ 2 พื้นที่ คือ 1) ทางตอนใต้ของเมืองมิตจีนา และ 2) รอยเลื่อนสะกายช่วงเมืองเนย์ปิดอว์ถึงทะเลอันดามัน ซึ่งหลังจากนั้นในช่วงปี ค.ศ. 2000-2005 เกิดแผ่นดินไหวขนาด ≥ 6.0 Mw จำนวน 3 เหตุการณ์ ในช่วงตอนใต้ของเมืองมิตจีนาและ 2 เหตุการณ์ ในบริเวณใกล้เมืองเนย์ปิดอว์ซึ่งเป็นพื้นที่แสดงค่า b ต่ำ (รูป ก)

แผนที่รอยเลื่อนสะกาย ตอนกลางของประเทศพม่าแสดงการกระจายตัวเชิงพื้นที่ของค่า b วิเคราะห์จากข้อมูลแผ่นดินไหวในช่วงปี (ก) ค.ศ. 1980-2000 (ข) ค.ศ. 1980-2005 และ (ค) ค.ศ. 1980-2010 (Pailoplee, 2013) ดาวสีแดง คือ แผ่นดินไหวขนาด ≥ 6.0 Mw ที่เกิดขึ้นภายใน 5 ปี หลังจากช่วงเวลาของฐานข้อมูลแผ่นดินไหวที่ใช้ในการวิเคราะห์

นอกจากนี้ในกรณีของข้อมูลแผ่นดินไหวในช่วงปี ค.ศ. 1980-2005 (รูป ข) พบการกระจายตัวเชิงพื้นที่ของค่า b ใกล้เคียงกับผลการวิเคราะห์จากข้อมูลแผ่นดินไหวในช่วงปี ค.ศ. 1980-2000 (รูป ก) และสามารถจำแนกพื้นที่แสดงค่า b ต่ำ ตามแนวรอยเลื่อนสะกายออกเป็น 3 รอยเลื่อนย่อย คือ รอยเลื่อนย่อยในช่วง 1) ตอนใต้ของเมืองมิตจีนา 2) เมืองมัณฑะเลย์-เนย์ปิดอว์ และ 3) นอกชายฝั่งทะเลอันดามัน ทางตอนใต้ของประเทศพม่า และจากรูป ข บ่งชี้ว่าจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด ≥ 6.0 Mw ที่เกิดในช่วงปี ค.ศ. 2005-2010 สอดคล้องกับพื้นที่ซึ่งวิเคราะห์ว่ามีค่า b ต่ำกว่าพื้นที่ข้างเคียง โดยเฉพาะทางตอนใต้ของเมืองมิตจีนา พบแผ่นดินไหวขนาด ≥ 6.0 Mw 7 เหตุการณ์ เกิดขึ้นในพื้นที่แสดงค่า b ต่ำ ดังกล่าว (รูป ข)

จากรูป ก-ข บ่งชี้ว่าสมมุติฐานของ Nuannin และคณะ (2005) มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ ค่า b ซึ่งมีนัยสำคัญถึงพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว ขนาด ≥ 6.0 Mw ตามแนวรอยเลื่อนสะกาย ดังนั้น Pailoplee (2013) จึงประยุกต์ใช้สมมุติฐานดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลแผ่นดินไหวในช่วงปี ค.ศ. 1980-2010 (รูป ค) และพบว่าตลอดแนวรอยเลื่อนสะกายมี 2 พื้นที่แสดงค่า b ต่ำกว่าพื้นที่ข้างเคียงอย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอนาคต คือ รอยเลื่อนสะกายที่พาดผ่าน 1) เมืองเนย์ปิดอว์-เมืองมัณฑะเลย์ และ 2) พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองมิตจีนา ทางตอนเหนือของรอยเลื่อนสะกาย (รูป ค)

นอกจากนี้ เพื่อที่จะประเมิน พื้นที่ยึดติดของระนาบรอยเลื่อน (asperity) ซึ่งเป็นแหล่งสะสมความเค้นทางธรณีแปรสัณฐาน และมีโอกาสปริแตกและเลื่อนตัวได้หากเกิดแผ่นดินไหว Pailoplee (2013) จึงวิเคราะห์การกระจายตัวเชิงพื้นที่ของค่า b ต่ำ ตามแนวภาคตัดขวางของรอยเลื่อนสะกาย

โดยหากอนุมานให้พื้นที่ยึดติดมีค่า b < 0.60 Pailoplee (2013) ประเมินว่ามี 2 พื้นที่ยึดติดของระนาบรอยเลื่อน โดยรอบเมืองมิตจีนา ซึ่งมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6-8.0 Mw (ดูรูป ก และตาราง ประกอบ) อย่าไรก็ตามหากพิจารณาที่ค่า b < 0.65 Pailoplee (2013) ประเมินว่าทั้ง 2 พื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นพื้นที่ยึดติดของระนาบรอยเลื่อนเดียวกัน และหากประเมินขนาดแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการปริแตกของพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.6 Mw (ดูรูป ข และตาราง ประกอบ)

ภาคตัดขวางตามแนวรอยเลื่อนสะกายแสดงการกระจายตัวเชิงพื้นที่ของค่า b และพื้นที่ยึดติดของระนาบรอยเลื่อนจากการอนุมานค่า (ก) b < 0.60 และ (ข) b < 0.65 (Pailoplee, 2013)
  พื้นที่ 1   พื้นที่ 2
  พื้นที่ยึดติด (กิโลเมตร2) ขนาดแผ่นดินไหว (Mw)   พื้นที่ยึดติด (กิโลเมตร2) ขนาดแผ่นดินไหว (Mw)
b < 6.0 7,850 8.0   3,820 7.6
b < 6.5 32,430 8.6  
พื้นที่ยึดติดของระนาบรอยเลื่อนจากการอนุมานค่า b < 0.60 และ b < 0.65 และการประเมินขนาดแผ่นดินไหวตามสมการความสัมพันธ์ของ Wells และ Coppersmith (1994)

ดังนั้นจากการวิเคราะห์ค่า b  ซึ่งอย่างที่บอกว่าสื่อถึงแรงเค้นทางธรณีแปรสัณฐาน พื้นที่ใดที่มีค่า b ต่ำกว่าพื้นที่ข้างเคียง (สีน้ำเงินและฟ้า) แสดงว่าพื้นที่นั้นมีโอกาสพอสมควรที่จะเกิดแผ่นดินไหวในอนาคต ซึ่งจากการทดลองแบบจำลองกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด ≥ 6.0 Mw ในอดีตของรอยเลื่อนสะกาย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า รอยเลื่อนสะกายมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด  ≥ 6.0 Mw ในอนาคต ในบริเวณ 1) ตอนใต้ของเมืองมิตจีนา 2) เมืองมัณฑะเลย์-เนย์ปิดอว์ และ 3) นอกชายฝั่งทะเลอันดามัน ทางตอนใต้ของประเทศพม่า หรืออาจจะใหญ่ได้ใหญ่ถึง 8.6  ถ้าประเมินจากพื้นที่ยึดติดของระนาบรอยเลื่อน (asperity) ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบในระดับภัยพิบัติพอสมควร และรู้สึกได้ถึงภาคกลางของไทย รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth

Share:
Slot Toto Slot Gacor Maxwin slot thailand slot toto slot resmi slot thailand slot qris slot gacor maxwin slot gacor maxwin Slot Gacor Maxwin Slot Gacor Maxwin 2024 Situs Slot Gacor 777 Situs Slot Gacor Toto Slot Gacor 2024 Maxwin Slot Gacor Terbaik Slot Gacor 4D Slot Gacor Terpopuler slot gacor maxwin slot toto gacor scatter hitam slot thailand slot777 slot maxwin slot thailand slot toto gacor slot gacor 777 Slot Gacor Thailand slot88 maxwin slot thailand 2024