
เอกโซสเฟียร์ (Exosphere) ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศนอกสุดของโลก ซึ่งอยู่ระหว่างชั้น เทอร์โมสเฟียร์ (Thermosphere) ที่อยู่ต่ำลงมา กับอวกาศที่ไม่มีอากาศใด ๆ ถือเป็นบริเวณที่ยังไม่ค่อยได้รับการสำรวจอย่างลึกซึ้งเท่าที่ควร ชั้น เอกโซสเฟียร์ (Exosphere) นี้ทำหน้าที่เป็นเขตเปลี่ยนผ่านระหว่างบรรยากาศของโลกกับความเวิ้งว้างของอวกาศ และมีบทบาทสำคัญในการปกป้องโลกจากอันตรายภายนอก
คำว่า “เอกโซสเฟียร์ (Exosphere)” มาจากภาษากรีก คือคำว่า exo ที่แปลว่า “นอก” หรือ “ภายนอก” และ sphaira ที่แปลว่า “ทรงกลม” หรือ “โลก” เอกโซสเฟียร์ คือ ชั้นบรรยากาศที่อยู่ไกลสุดของโลก
โดยนิยาม เอกโซสเฟียร์ไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน แต่เริ่มต้นที่ระดับความสูงประมาณ 500-1,000 กิโลเมตร จากพื้นโลก และขยายตัวออกไปจนถึงประมาณ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่อนุภาคในชั้นนี้กระจายออกจนหมดแรงดึงดูดของโลก
เพิ่มเติม : บรรยากาศ (Atmosphere)

ลักษณะเฉพาะ
เอกโซสเฟียร์ (Exosphere) มีความแตกต่างจากชั้นบรรยากาศอื่น ๆ อย่างชัดเจน เนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ดังต่อไปนี้
1) ความหนาแน่นต่ำ เอกโซสเฟียร์มีอนุภาคที่เบาบางมาก โดยประกอบด้วย ไฮโดรเจน ฮีเลียม และปริมาณเล็กน้อยของ ออกซิเจน และ คาร์บอนไดออกไซด์ การชนกันระหว่างอนุภาคเกิดขึ้นน้อยมาก
2) ความเร็วหลุดพ้น อนุภาคในเอกโซสเฟียร์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง และบางอนุภาคสามารถเคลื่อนที่เร็วเกินกว่า ความเร็วหลุดพ้นของโลก (11.2 กิโลเมตร/วินาที) ทำให้ออกจากแรงดึงดูดของโลกไปสู่อวกาศได้
3) อุณหภูมิสูงมาก อุณหภูมิในเอกโซสเฟียร์สามารถสูงได้ถึง 2,500°C (4,500°F) เนื่องจากการได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์โดยตรง อย่างไรก็ตาม การถ่ายเทความร้อนในชั้นนี้เกิดขึ้นน้อย เนื่องจากอนุภาคอยู่ห่างกันมาก
4) ปฏิสัมพันธ์กับอวกาศ เอกโซสเฟียร์ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมของดวงอาทิตย์ เช่น ลมสุริยะ (solar wind) และ รังสีคอสมิก (cosmic rays) ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของอนุภาคและการเกิดการแตกตัวเป็นไอออน
องค์ประกอบ
เอกโซสเฟียร์มีองค์ประกอบที่สะท้อนถึงบทบาทในการเป็นเขตเปลี่ยนผ่านระหว่างโลกและอวกาศ ซึ่งประกอบด้วย
- ไฮโดรเจน (H2) เป็นองค์ประกอบที่เบาที่สุดและพบมากที่สุดในชั้นเอกโซสเฟียร์
- ฮีเลียม (He) ฮีเลียมในชั้นนี้มาจากทั้งแหล่งธรรมชาติและกระบวนการทางคอสมิก
- ออกซิเจน (O) แม้จะพบได้น้อยมาก แต่ยังมีอยู่ในรูปของโมเลกุลเล็ก ๆ
- คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) พบในปริมาณน้อยมาก แต่มีบทบาทเล็กน้อยในกระบวนการทางบรรยากาศ
- อนุภาคประจุไฟฟ้า ดวงอาทิตย์มีผลต่อการแตกตัวเป็นไอออนในเอกโซสเฟียร์ ทำให้เกิดอนุภาคที่มีประจุ ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กโลก
บทบาทในระบบบรรยากาศโลก
แม้เอกโซสเฟียร์จะมีอนุภาคเบาบางมาก แต่ก็มีบทบาทสำคัญหลายประการ ได้แก่
1) การป้องกันขอบเขตโลก เอกโซสเฟียร์ช่วยลดผลกระทบโดยตรงจาก ลมสุริยะ (Solar Wind) และ รังสีคอสมิก (Cosmic Ray) ที่อาจเข้าสู่ชั้นบรรยากาศด้านล่าง
2) โคจรของดาวเทียม ดาวเทียมหลายประเภท เช่น ดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) และ ดาวเทียมค้างฟ้า (geostationary satellites) โคจรอยู่ในหรือใกล้ชั้นเอกโซสเฟียร์ ความเข้าใจในชั้นนี้จึงสำคัญต่อการวางแผนเส้นทางโคจรและลดการเสื่อมของวงโคจร
3) การปลดปล่อยก๊าซ เอกโซสเฟียร์เป็นบริเวณที่ก๊าซเบา เช่น ไฮโดรเจนและฮีเลียม หลุดออกไปสู่อวกาศ ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า “การหลุดของบรรยากาศ (Atmospheric Escape)” และมีผลต่อวิวัฒนาการของบรรยากาศโลกในระยะยาว
4) ปฏิสัมพันธ์กับแมกนีโตสเฟียร์ ชั้นเอกโซสเฟียร์ทำงานร่วมกับชั้นแมกนีโตสเฟียร์ (สนามแม่เหล็กโลก) ในการป้องกันอนุภาคที่มีประจุจากลมสุริยะ

จากการสังเกตของนักวิทยาศาสตร์พบว่าปัจจุบัน ดวงอาทิตย์มีจุดที่มีแสงสว่างน้อยและมีอุณหภูมิต่ำกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของดวงอาทิตย์ เรียกว่า จุดดับบนดวงอาทิตย์ (Sunspot) ซึ่งจากการศึกษาพบว่าจุดดับเหล่านี้ ทำให้เกิดการแปรปรวนของสนามแม่เหล็ก เกิด เปลวสุริยะ (Solar Flare) และเกิด พายุสุริยะ (Solar Wind) ฟุ้งออกมา ซึ่งเมื่อพายุสุริยะเดินทางเข้าปะทะกับโลกที่มีสนามแม่เหล็กห่อหุ้มอยู่ ทำให้สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงไปจากสภาวะปกติ และเป็นสาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์ แสงเหนือ-แสงใต้ (Aurora) ที่มีลักษณะเป็นลำแสงหลากหลายสีคล้ายม่านอยู่เหนือพื้นโลกประมาณ 100-300 กิโลเมตร ซึ่งสามารถพบในพื้นที่ใกล้กับขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้
เพิ่มเติม : สนามแม่เหล็กโลก และการใช้ประโยชน์

การสำรวจเอกโซสเฟียร์
นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีการหลากหลายในการศึกษาเอกโซสเฟียร์
1) การสังเกตจากพื้นดิน กล้องโทรทรรศน์ที่ติดตั้งเซนเซอร์พิเศษสามารถตรวจจับแสงที่ปล่อยออกจากไฮโดรเจนในเอกโซสเฟียร์ผ่าน รังสี Lyman-alpha ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์ความหนาแน่นและการกระจายตัวของอนุภาค
2) ดาวเทียมสำรวจ ดาวเทียม เช่น Atmosphere Explorer และภารกิจ TIMED (Thermosphere Ionosphere Mesosphere Energetics and Dynamics) ของ NASA ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบ อุณหภูมิ และปฏิสัมพันธ์ของเอกโซสเฟียร์กับอวกาศ
3) การวัดโดยตรง เครื่องมือบนบอลลูนความสูงสูงและยานสำรวจ เช่น เครื่องวัดมวล (mass spectrometer) และเครื่องตรวจจับอนุภาค (particle detector) ถูกนำมาใช้ในการเก็บข้อมูลจากชั้นเอกโซสเฟียร์โดยตรง
4) การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์สามารถจำลองพฤติกรรมของอนุภาคในเอกโซสเฟียร์โดยคำนึงถึงแรงโน้มถ่วง ความดันรังสีจากดวงอาทิตย์ และการชนกันระหว่างอนุภาค

ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง
เอกโซสเฟียร์มีบทบาทในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหลายประการ เช่น
1) จีโอโคโรนา (Geocorona) เอกโซสเฟียร์ทำให้เกิดแสงเรืองจาง ๆ ของไฮโดรเจนรอบโลก ซึ่งเรียกว่า จีโอโคโรนา และสามารถมองเห็นได้ในช่วงรังสีอัลตราไวโอเลต
2) แสงออโรรา แม้ว่าแสงออโรราจะเกิดขึ้นในชั้นเทอร์โมสเฟียร์ แต่บางส่วนของอนุภาคที่กระทบกับสนามแม่เหล็กโลกสามารถแพร่กระจายเข้าสู่เอกโซสเฟียร์ได้
3) ผลกระทบจากอวกาศ พายุสุริยะและอนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ส่งผลต่อเอกโซสเฟียร์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความหนาแน่นและการเคลื่อนที่ของอนุภาค

เอกโซสเฟียร์ในดาวเคราะห์อื่น
เอกโซสเฟียร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนโลก ดาวเคราะห์และดวงจันทร์อื่น ๆ ที่มีบรรยากาศก็มีเอกโซสเฟียร์เช่นกัน ตัวอย่างได้แก่
- ดาวอังคาร เอกโซสเฟียร์ของดาวอังคารมีองค์ประกอบของคาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน และอาร์กอน รวมถึงออกซิเจนและไอน้ำในปริมาณน้อย
- ดาวพุธ เอกโซสเฟียร์ของดาวพุธบางมาก และมีองค์ประกอบหลักเป็นโซเดียมและโพแทสเซียม
- ดวงจันทร์ เอกโซสเฟียร์ของดวงจันทร์ ซึ่งเรียกว่า “Surface-Bounded Exosphere” มีองค์ประกอบของฮีเลียม อาร์กอน และธาตุอื่น ๆ

การศึกษาเอกโซสเฟียร์
การศึกษาเอกโซสเฟียร์มีความท้าทายหลายประการ เช่น
- ความหนาแน่นต่ำ อนุภาคในเอกโซสเฟียร์มีความหนาแน่นต่ำมาก ทำให้การวัดค่าต้องใช้เครื่องมือที่ไวต่อการตรวจจับสูง
- ความแปรปรวนสูง เอกโซสเฟียร์มีคุณสมบัติที่เปลี่ยนแปลงตามกิจกรรมของดวงอาทิตย์ ทำให้ข้อมูลอาจไม่คงที่
- ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี การออกแบบอุปกรณ์ที่ทนต่อสภาพแวดล้อมของเอกโซสเฟียร์ เช่น อุณหภูมิสูงและรังสีจากอวกาศ ยังคงเป็นความท้าทาย
ทิศทางการวิจัยในอนาคต
เอกโซสเฟียร์ยังคงเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับการวิจัยในอนาคต โดยมีหัวข้อสำคัญได้แก่
- การศึกษาผลกระทบระยะยาวของการหลุดออกของก๊าซต่อสภาพอากาศของโลก
- ความสัมพันธ์ระหว่างเอกโซสเฟียร์กับการเคลื่อนที่ของพลังงานในระบบบรรยากาศโลก
- การพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อเก็บข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นในชั้นนี้
โดยสรุป เอกโซสเฟียร์เป็นเขตแดนที่โลกเชื่อมต่อกับอวกาศ แม้จะมีความบางเบาและดูเหมือนนิ่งเงียบ แต่เอกโซสเฟียร์กลับมีบทบาทสำคัญในการปกป้องโลกและช่วยให้เราเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างโลกกับจักรวาลมากขึ้น การสำรวจชั้นนี้จะช่วยเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งของโลกในระบบสุริยะและจักรวาลในอนาคต
. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth