
เรียบเรียง : ภูริช โพธิ์ไอยรา และ สันติ ภัยหลบลี้
ประเทศไต้หวันตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น คือ 1) แผ่นทะเลฟิลิปปินส์ (Philippine Sea Plate) และ 2) แผ่นยูเรเซีย (Eurasian Plate) ชึ่งบริเวณนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของประเทศ แผ่นทะเลฟิลิปปินส์มุดตัวลงไปใต้ตอนเหนือของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย และในบริเวณตอนใต้ของประเทศ แผ่นเปลือกโลกยูเรเซียมุดตัวลงไปในทิศตะวันออกของแผ่นทะเลฟิลิปปินส์ จากการมมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกบริเวณตะวันออกนี้ ทำให้เกิด ร่องลึกก้นสมุทรริวกิว (Ryukyu Trench) โดยในปี ค.ศ. 1998 ไต้หวันมีการค้นพบ รอยเลื่อนมีพลัง (active fault) มากถึง 51 แนวรอยเลื่อน และในปี ค.ศ. 2010 นักธรณีวิทยาในพื้นที่มีการเก็บข้อมูลมากขึ้น ทำให้พบรอยเลื่อนเพิ่มขึ้นอีก 33 รอยเลื่อน โดยตัวอย่างรอยเรื่อนมีพลังที่สำคัญ ได้แก่

รอยเลื่อนชีลังพู (Chelungpu Fault)
รอยเลื่อนชีลังพู (Chelungpu Fault) วางตัวอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ ของมณฑลเหมียวลี่ ซึ่งมีความยาวถึง 90 กิโลเมตร และเอียงเทไปทางทิศตะวันออก 30° ซึ่งรอยเลื่อนนี้ เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1999 คือ แผ่นดินไหวชิชิ (Chi-Chi earthquake) ซึ่งเกิดขึ้นที่เมืองชิชิ มณฑลนันโต ประเทศไต้หวัน แผ่นดินไหวในครั้งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 7.7 เกิดที่ระดับความลึก 8 กิโลเมตร ทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 2,415 คน บาดเจ็บ 11,305 คน และสูญหายอีก 29 คน อีกทั้งยังมีอาคารที่ถูกทำลายอีก 53,768 อาคาร และ ได้รับความเสียหายอีก 51,711 อาคาร รวมความเสียหายทั้งหมดกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และเป็นพิบัติภัยครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในประเทศใต้หวัน
นอกจากนี้ จากการเลื่อนตัวของ รอยเลื่อนชีลังพู (Chelungpu Fault) ซึ่งเป็น การเลื่อนตัวแบบย้อน (reverse fault) ทำให้เกิดภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยการเลื่อนตัวแบบย้อนของรอยเลื่อน ทำให้พื้นดินเลื่อนตัวในแนวดิ่งเหมือนกับ การเลื่อนตัวแบบปกติ (normal fault) แต่จะแตกต่างกันตรงที่ หากเป็นการเลื่อนจากรอยเลื่อนปกติ จะเห็นแนวรอยตัดหรือหน้าผาที่คมชัด ส่วนการเลื่อนตัวแบบย้อนจะมีทั้งการเลื่อนตัวและการคดโค้งมั่วซั่วร่วมกันอยู่ เกิดเป็นแนวของเนินเตี้ยๆ ขาวตลอดแนวของรอยเลื่อน เรียกว่า สันนูนขวางตรง (Linear ridge)
เพิ่มเติม : ภูมิประเทศบ่งชี้ “รอยเลื่อน”


รอยเลื่อนซีซาน (Chishan Fault)
รอยเลื่อนซีซาน (Chishan Fault) วางตัวอยู่บริเวณนครเกาสยุน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางตอนตะวันตกเฉียใต้ของประเทศ ไตหวัน รอยเลื่อนนี้ทำให้เกิด แผ่นดินไหวไมนัง (Meinong earthquake) ซึ่งมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณนครเกาสยุน และมณฑลผิงตง เกิดขึ้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 6.4 และมีความลึกอยู่ที่ 23 กิโลเมตร แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 116 คน บาดเจ็บ 550 คน และมีสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ของเมือง ได้รับความเสียหายมากถึง 23 แห่ง นอกจากนี้ยังเกิด แผ่นดินไหวตาม (aftershock) ที่มีขนาด 4.9 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลักเพียง 3 นาที และเกิดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 นับจำนวนแผ่นดินไหวตามได้ทั้งสิ้นกว่า 70 เหตุการณ์

รอยเลื่อนมิลุน (Milun Fault)
รอยเลื่อนมิลุน (Milun Fault) วางตัวอยู่บริเวณมณฑลฮวาเหลียน รอยเลื่อนนี้ทำให้เกิดแผ่นหินไหวครั้งล่าสุดของ ประเทศไต้หวัน คือ แผ่นดินไหวฮวาเหลียน (Hualien earthquake) ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 แผ่นดินไหวครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางอยู่บนแนวชายฝั่งใกล้มณฑลฮวาเหลียน ประเทศไต้หวัน แผ่นดินไหวในครั้งนี้มีความรุนแรง 6.4 MW มีความลึกอยู่ที่ 10.6 กิโลเมตร แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน บาดเจ็บ 272 คน และ สูญหาย 7 คนและหลังจากเกิดแผ่นดินไหวในวันที่6 ยังเกิดแผ่นดินไหวตาม(aftershock) ขึ้นในวันที่7 ซึ่งมีขนาด 5.7 MW

นอกจากนี้ ในไต้หวันเคยมีการศึกษาหา รอยเลื่อนมีพลัง(active fault) หรือเรียกอีกชื่อว่า การศึกษาแผ่นดินไหวบรรพกาล (paleoseismology) ซึ่งคือการศึกษาหาประวัติการเกิดแผ่นดินไหว จากการดูการเลื่อนตัวของชั้นตะกอน โดยเราจะทำการขุดหลุมแนวขวางกับรอยเลื่อนและสังเกตุลำดับชั้นของหินตะกอนใต้ผิวดิน ถ้ามีการเลื่อนขึ้นของชั้นตะกอน แสดงว่าบริเวณดังกล่าวเคยเกิดแผ่นดินไหวมาก่อน ยกตัวอย่างงานวิจัย ซึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในอดีตบน รอยเลื่อนชีลังพู (Chilungpu fault) ซึ่งจะศึกษาจากบริเวณรอยแตกที่ทำให้ชั้นดินยกตัวขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวที่ไต้หวันในปี 1999 (Chi-Chi earthquake) ตามแนวรอยเลื่อนชีลังพู โดยนักวิจัยได้ขุดหลุมเพื่อดูลักษณะลำดับชั้นของตะกอน ซึ่งทางทีมงานนี้ได้ขุดหลุมทั้งหมด 9 ครั้ง ทำให้สรุปได้ว่าในประเทศไตหวันมีรอยเลื่อนมีพลัง(active fault) 16 ตัว และจากการงานวิจัย [Chen และคณะ, 2004] คาดการว่าเกิดแผ่นดินไหว 4 ครั้งใหญ่ๆ ในรอบ 1900 ปี ซึ่งได้นับรวมแผ่นดินไหวซีซีในปี 1999 ไว้แล้วด้วย

และจากการศึกษาแบบจำลองการยึด-เลื่อน (The Stick and Slip Model) ของรอยเลื่อนชีลังพู ตามภาพด้านล่าง จะได้ว่าเป็น แบบจำลองชนิดทำนายเวลาเกิดได้ (Time predictable model) จะทำให้เรารู้ว่าแผ่นดินไหวครั้งก่อนๆ และครั้งต่อไป ที่จะเกิดจากรอยเลื่อนชีลังพูนั้น จะเกิดขึ้นเมื่อไร ซึ่งจากกราฟที่เราได้จะทำนายได้ว่าแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนชีลังพูครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 2340 หรืออีก 319 ปีนั้นเอง
เพิ่มเติม : การเกิดแผ่นดินไหว : แนวคิดการคืนตัววัสดุและแบบจำลองตะกุกตะกัก

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth