วิจัยวิทยาศาสตร์โลกสำรวจเรียนรู้

10 เหตุการณ์ หนาวสุดขั้ว ที่เคยเกิดขึ้นกับมนุษย์

โพลาร์ วอร์เท็กซ์ (Polar Vortex) หมายถึง ระบบความกดอากาศต่ำขนาดใหญ่ที่มีอากาศเย็นล้อมรอบขั้วโลกของโลก โดยทั่วไปแล้ว โพลาร์ วอร์เท็กซ์จะอยู่ในพื้นที่ขั้วโลก แต่ในบางครั้งมันสามารถขยายออกมา และเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ที่ละติจูดต่ำลง ทำให้เกิดเหตุการณ์อากาศสุดขั้ว เช่น อุณหภูมิที่หนาวจัด พายุหิมะ และแม้กระทั่งการสูญเสียชีวิต

เพิ่มเติม : สภาพอากาศสุดขั้ว (extreme weather) : คลื่นความร้อน – โพลาร์ วอร์เท็กซ์

(บน) การ์ตูนแสดงกระบวนการเกิดโพลาร์วอร์เท็กซ์ จากภาพจะเห็นว่า โดยปกติแล้วมวลอากาศเย็นแถบขั้วโลก จะถูกจำกัดบริเวณให้หมุนวนอยู่ในเขตขั้วโลกเท่านั้น โดยการกำกับของ กระแสลมกรดเขตขั้วโลก (polar jet stream) แต่เมื่อกระแสลมกดขั้วโลกเกิดการย้อยตกท้องช้างลงมา ที่ละติจูดต่ำจึงทำให้พื้นที่ด้านล่างหนาวกว่าปกติ (ล่าง) แผนที่สภาพอากาศแสดงปรากฏการณ์โพลาร์วอร์เท็กซ์ ที่เกิดขึ้นบริเวณทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

ในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จัก รำลึก เหตุการณ์ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ (Polar Vortex) ที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับ โดยอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิด ผลกระทบในแต่ละพื้นที่ และจำนวนผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านั้น

1. อเมริกาเหนือ ค.ศ. 2014

สาเหตุ เหตุการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในปี ค.ศ. 2014 เกิดจากการถดถอยของการหมุนวนในชั้นบรรยากาศส่วนบน ทำให้โพลาร์ วอร์เท็กซ์อ่อนแอลงและปล่อยอากาศเย็นจากขั้วโลกไหลลงไปยังทวีปอเมริกาเหนือ การเกิดการอุ่นตัวแบบฉับพลันในชั้นสตราโตสเฟียร์ (sudden stratospheric warming) เป็นปัจจัยที่มักทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้

ผลกระทบ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในปี ค.ศ. 2014 ทำให้สภาพอากาศในอเมริกาเหนือหนาวจัด โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา อุณหภูมิในบางพื้นที่ลดลงจนถึงระดับต่ำสุดที่เคยบันทึกไว้ โดยเมืองใหญ่เช่น ชิคาโกและนิวยอร์กต้องเผชิญกับหิมะตกหนักและสภาพอากาศที่ทำให้ชีวิตประจำวันหยุดชะงัก อากาศเย็นได้ขยายไปจนถึงฟลอริดาที่มักจะมีอากาศอบอุ่น

จำนวนผู้เสียชีวิต แม้จำนวนผู้เสียชีวิตจะเป็นเรื่องที่ยากในการคำนวณ แต่จากการประมาณการณ์อย่างคร่าว ๆ มีรายงานผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 21 คนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสอากาศหนาวจัดและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสภาพการเดินทางที่ยากลำบาก

(บน) ภาพถ่ายทางดาวเทียมจาก NASA แสดงให้เห็นพื้นที่ประสบภัยจากปรากฏการณ์โพลาร์วอร์เท็กซ์ ถ่ายเมื่อ 3 มกราคม ค.ศ. 2014 (ล่าง) สภาพการณ์ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์โพลาร์วอร์เท็กซ์

2. อเมริกาและแคนาดา ค.ศ. 2019

สาเหตุ ในช่วงปลายเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 โพลาร์ วอร์เท็กซ์ขนาดใหญ่ได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและแคนาดา โดยสาเหตุหลักมาจากการอุ่นตัวอย่างฉับพลันในชั้นสตราโตสเฟียร์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะการหมุนเวียนของลม ทำให้มวลอากาศเย็นจากขั้วโลกไหลลงสู่ทวีปอเมริกาเหนือ

ผลกระทบ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาประสบกับอุณหภูมิหนาวจัด โดยเมืองใหญ่เช่น ชิคาโก มินนิอาโปลิส และมิลวอกี ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นสุดขั้ว โดยมีอุณหภูมิที่ลดลงต่ำกว่า -30 องศาฟาเรนไฮต์ และลมหนาวที่ทำให้รู้สึกเหมือนอุณหภูมิถึง -50 องศาฟาเรนไฮต์ นอกจากนี้ยังมีหิมะตกและพายุหิมะที่ทำให้การเดินทางหยุดชะงักและเกิดปัญหาขัดข้องต่าง ๆ

จำนวนผู้เสียชีวิต มีรายงานผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 21 คนจากเหตุการณ์นี้ โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการสัมผัสอากาศหนาวจัดจนเกิดภาวะตัวเย็นจัด (hypothermia) รวมถึงอุบัติเหตุจากถนนลื่นและการเดินทางที่อันตราย

โพลาร์ วอร์เท็กซ์ อเมริกาและแคนาดา ค.ศ. 2019 (ที่มา : www.forbes.com)

3. เท็กซัส ค.ศ. 2021

สาเหตุ เหตุการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในปี ค.ศ. 2021 เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ โดยโพลาร์ วอร์เท็กซ์ทำให้เกิดการกระจายของอากาศเย็นจากขั้วโลกไปยังเท็กซัส สาเหตุหลักเกิดจากการผิดปกติในชั้นบรรยากาศที่ทำให้ลมเย็นจากขั้วโลกเคลื่อนตัวมาทางใต้เข้าไปในรัฐเท็กซัส

ผลกระทบ ในเท็กซัส อุณหภูมิในบางพื้นที่ลดลงต่ำสุดในรอบหลายสิบปี โดยบางพื้นที่มีอุณหภูมิถึง -2 องศาฟาเรนไฮต์ ทำให้เกิดการล้มเหลวของระบบไฟฟ้า ทำให้ประชาชนหลายล้านคนในรัฐเท็กซัสไม่มีไฟฟ้าใช้ในสภาพอากาศหนาวจัด รวมถึงการเสียหายของบ้านเรือน ระบบน้ำ และท่อประปาที่แตก นอกจากนี้การผลิตพลังงานโดยเฉพาะในภาคก๊าซธรรมชาติและพลังงานลมก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

จำนวนผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 210 คนในรัฐเท็กซัส จำนวนมากเกิดจากการสัมผัสอากาศหนาวจัดและภาวะตัวเย็นจัด นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตจากการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อให้ความอบอุ่น ซึ่งทำให้เกิดการเสียชีวิตจากการสัมผัสก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ รวมถึงอุบัติเหตุจากถนนลื่น

โพลาร์ วอร์เท็กซ์ เท็กซัส ค.ศ. 2021 (ที่มา : www.statesman.com)

4. ยุโรป ค.ศ. 2018

สาเหตุ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในปี ค.ศ. 2018 ที่ส่งผลกระทบต่อยุโรป เกิดจากการอุ่นตัวอย่างฉับพลันในชั้นสตราโตสเฟียร์ซึ่งทำให้โพลาร์ วอร์เท็กซ์อ่อนแอลงและกระจายตัวออกไปสู่ยุโรป โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสแกนดิเนเวีย

ผลกระทบ ยุโรปต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัด โดยสหราชอาณาจักรได้รับหิมะตกหนักและอุณหภูมิที่ลดต่ำลง โดยหลายประเทศในยุโรปเช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี ได้รับผลกระทบจากหิมะตกและการหยุดชะงักของการเดินทาง

จำนวนผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 30 คนในยุโรป ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการสัมผัสอากาศหนาวจัด โดยมีบางรายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนลื่นและภาวะแทรกซ้อนจากสภาพอากาศหนาว

5. ยุโรปและรัสเซีย ค.ศ. 2014

สาเหตุ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในปี ค.ศ. 2014 ที่ส่งผลกระทบต่อยุโรปและรัสเซีย เกิดจากการถดถอยของโพลาร์ วอร์เท็กซ์ที่ทำให้เกิดการกระจายของอากาศเย็นจากขั้วโลกไปยังพื้นที่เหล่านี้

ผลกระทบ ในรัสเซีย อุณหภูมิในบางพื้นที่ลดลงต่ำถึง -40 องศาฟาเรนไฮต์ ขณะที่ในยุโรปหลายประเทศเช่น โปแลนด์ ยูเครน และเบลารุสได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวจัดและหิมะตกหนัก

จำนวนผู้เสียชีวิต มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 60 คน ในรัสเซียและยุโรปจากเหตุการณ์นี้ หลายรายเสียชีวิตจากภาวะตัวเย็นจัด อุบัติเหตุบนถนนลื่น รวมถึงการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับอากาศหนาวจัด

6. อเมริกาเหนือ ค.ศ. 2013

สาเหตุ ในปี ค.ศ. 2013 เกิดโพลาร์ วอร์เท็กซ์ที่ส่งผลกระทบต่ออเมริกาเหนือ โดยมีการเคลื่อนที่ของอากาศเย็นจากขั้วโลกไปยังพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ผลกระทบ ในปี ค.ศ. 2013 หลายพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวจัด โดยเมืองเช่น ชิคาโก นิวยอร์ก และบอสตันได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวจัดและหิมะตกหนัก

จำนวนผู้เสียชีวิต มีรายงานผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 10 คนจากเหตุการณ์นี้ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสอากาศหนาวจัดและอุบัติเหตุจากสภาพการเดินทางที่ยากลำบาก

7. สหราชอาณาจักร ค.ศ. 2010

สาเหตุ ในปี ค.ศ. 2010 โพลาร์ วอร์เท็กซ์ส่งผลกระทบต่อสหราชอาณาจักร โดยมีการอุ่นตัวในชั้นสตราโตสเฟียร์ที่ทำให้โพลาร์ วอร์เท็กซ์อ่อนแอลงและส่งผลให้อากาศเย็นจากขั้วโลกไหลเข้าสู่พื้นที่สหราชอาณาจักร

ผลกระทบ สหราชอาณาจักรประสบกับหิมะตกหนักและ อุณหภูมิที่ต่ำที่สุดในรอบ 100 ปี การเดินทางถูกขัดขวางอย่างหนัก รวมถึงปัญหาการจ่ายพลังงานและความลำบากในการให้ความอบอุ่นแก่ประชาชน

จำนวนผู้เสียชีวิต โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในปี ค.ศ. 2010 ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 25 คนในสหราชอาณาจักรจากการสัมผัสอากาศหนาวจัดและอุบัติเหตุจากการเดินทาง

8. เอเชียใต้ ค.ศ. 2009

สาเหตุ ในปี ค.ศ. 2009 โพลาร์ วอร์เท็กซ์ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือของเอเชียใต้ โดยมีการเคลื่อนที่ของอากาศเย็นจากขั้วโลกไปยังพื้นที่เช่น เนปาล อินเดีย และปากีสถาน

ผลกระทบ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ทำให้เกิดอากาศหนาวจัดในพื้นที่เอเชียใต้ โดยมีหิมะตกในพื้นที่ที่ไม่เคยประสบกับหิมะมาก่อน ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในพื้นที่ภูเขา รวมถึงความเสียหายจากพืชผล

จำนวนผู้เสียชีวิต โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในเอเชียใต้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 100 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการสัมผัสอากาศหนาวจัดในพื้นที่ภูเขา

9. อเมริกาเหนือ ค.ศ. 1994

สาเหตุ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ในปี ค.ศ. 1994 เกิดจากการถดถอยของโพลาร์ วอร์เท็กซ์ที่ทำให้เกิดการกระจายของอากาศเย็นจากขั้วโลกไปยังอเมริกาเหนือ

ผลกระทบ ในปี ค.ศ. 1994 อเมริกาเหนือได้รับผลกระทบจากอากาศหนาวจัดในพื้นที่จากมิดเวสต์ไปจนถึงชายฝั่งตะวันออก รวมถึงการเกิดหิมะตกหนักและสภาพอากาศหนาวจัดที่ทำให้การเดินทางหยุดชะงัก

จำนวนผู้เสียชีวิต มีรายงานผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 30 คนในสหรัฐอเมริกา จากการสัมผัสอากาศหนาวจัดและอุบัติเหตุจากถนนลื่น

10. อเมริกาเหนือ ค.ศ. 1989

สาเหตุ เหตุการณ์นี้เกิดจากการเคลื่อนที่ของอากาศเย็นจากขั้วโลกที่ไหลลงมายังอเมริกาเหนือ

ผลกระทบ ในอเมริกาเหนือ อากาศหนาวจัดทำให้หลายเมืองต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่ต่ำลงอย่างรวดเร็ว และมีการขัดข้องของระบบขนส่ง

จำนวนผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 25 คนในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการสัมผัสอากาศหนาวจัดและอุบัติเหตุบนถนน

สรุป เหตุการณ์โพลาร์ วอร์เท็กซ์ แม้จะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่ก็สามารถมีผลกระทบอย่างรุนแรงเมื่อมันเคลื่อนที่ออกจากขั้วโลก ส่งผลให้เกิดอากาศหนาวจัด พายุหิมะ และการหยุดชะงักของชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อผู้คนจำนวนมาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) อาจทำให้โพลาร์ วอร์เท็กซ์มีความถี่และความรุนแรงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้ในอนาคต

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth

Share: