![](http://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/09/6-3-0-750x375.jpg)
ภูเขาไฟ – แมกมา (magma) ประกอบด้วย 1) หินหนืด (molten rock) จากการหลอมละลายของหินใต้พื้นผิวโลก 2) ไอระเหย (volatile)ของน้ำและก๊าซ รวมทั้ง 3) หินแปลกปลอม (xenolith) ต่างๆ ที่อาจปะปนกันมาตลอดระยะทางระหว่างการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาสู่พื้นผิวโลก
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จำแนกแมกมาออกเป็น 3 ชนิด ตามองค์ประกอบทางเคมีและสัดส่วนความเข้มข้นของแร่ซิลิกา (SiO2) ซึ่งแมกมาแต่ละชนิดส่งผลให้เกิดคุณลักษณะเฉพาะต่างๆ ของกิจกรรมทางภูเขาไฟ ทั้งรูปร่างภูเขาไฟ สไตล์การปะทุ วัสดุที่เกิดจากภูเขาไฟ ตลอดจนรูปแบบของภัยพิบัติภูเขาไฟที่มีโอกาสเกิดขึ้น ซึ่งในเชิงองค์ประกอบ แมกมารายละเอียดและคุณสมบัติของแมกมาแต่ละชนิดแสดงในตารางด้านล่าง (Schmincke, 2005) และสรุปคุณสมบัติสำคัญของแมกมาที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของ ลาวา (lava) ออกเป็น 3 ปัจจัย คือ
คุณสมบัติ | แมกมาบะซอลต์ (basaltic) | แมกมาแอนดิไซต์ (andesitic) | แมกมาไรโอไรท์ (rhyoritic) | |
1. | สี | เข้ม | ปานกลาง | จาง |
2. | อุณหภูมิ (oC) | 1,000-1,200 | 800-1,000 | 600-900 |
3. | ความเข้มข้นของแร่ซิลิกา | ต่ำ (45-55%) | กลาง (55-56%) | สูง (65-75%) |
4. | ความเข้มข้นน้ำ | 0.1-1% | ประมาณ 2-3% | ประมาณ 4-6% |
5. | ความเข้มข้นก๊าซ | 1-2% | 3-4% | 4-6% |
6. | ความหนืด | ต่ำ | ปานกลาง | สูง |
7. | สัดส่วนบนโลก | 80% | 10% | 10% |
1) ความหนืด
ความหนืด (viscosity) คือ ความสามารถในการไหลของแมกมา โดยแมกมาที่มีความหนืดสูงอย่างแมกมาไรโอไรท์ (ดูตาราง) จะไหลได้ช้าและไม่ไกลจากแหล่งกำเนิด โดยมีรูปแบบการไหลคล้ายกับเศษหินที่ถูกครูดและลากไถไปอย่างต่อเนื่อง เรียกลักษณะการไหลแบบนี้ว่า ลาวาอาอ้า (‘a‘a) ส่วนแมกมาที่มีความหนืดต่ำอย่างแมกมาบะซอลต์ จะไหลหลากไปได้ไกลจากแหล่งกำเนิด โดยผิวภายนอกเย็นตัวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ภายในยังหลอมละลายและเคลื่อนที่ได้ต่อ ทำให้มีลักษณะคล้ายกับเกลียวเชือก เรียกลักษณะการไหลแบบนี้ว่า ลาวาปาฮอยฮอย (pahoehoe) นอกจากนี้หากแมกมาแทรกดันขึ้นมาใต้ทะเล แมกมาจะแสดงรูปแบบเฉพาะของการไหลออกมาเป็นก้อนๆ คล้ายกับหมอน เรียกว่า ลาวารูปหมอน (pillow lava)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2020/08/6-3-1.jpg)
แมกมา (magma) คือ หินหนืดที่อยู่ภายในโลก ถ้าปะทุขึ้นมาบนพื้นผิวโลกเรียกว่า ลาวา (lava)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2020/08/6-3-2-1024x536.jpg)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2020/08/6-3-3-1024x536.jpg)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2020/08/6-3-4-1024x536.jpg)
2) ไอระเหย
ไอระเหย (volatile) มีอยู่หลายชนิด (ดูตาราง) โดยในช่วงที่แมกมาอยู่ใต้พื้นผิวโลกไอระเหยจะถูก ความดันปิดล้อม (confining pressure) บีบอัดไว้ให้ละลายอยู่กับแมกมา แต่เมื่อแมกมาแทรกดันสูงขึ้น ความดันปิดล้อมลดลง ทำให้ก๊าซชนิดต่างๆ ที่อยู่ในแมกมาขยายตัวเป็นฟองและพุ่งสู่พื้นผิวโลกโดยมีแมกมาติดมาด้วย ซึ่งรูปแบบคล้ายกับการเกิดฟองหลังจากเปิดกระป๋องน้ำอัดลม ดังนั้นแมกมาที่มีปริมาณก๊าซมาก เช่นแมกมาไรโอไรท์จะสามารถปะทุได้รุนแรงกว่าแมกมาที่มีก๊าซอยู่น้อยอย่างแมกมาบะซอลต์
ส่วนประกอบ | ปริมาตร (%) | ส่วนประกอบ | ปริมาตร (%) |
H2O | 67.70 | S2 | 1.04 |
CO2 | 12.70 | H2 | 0.75 |
N2 | 7.65 | CO | 0.67 |
SO2 | 7.03 | Cl2 | 0.41 |
SO3 | 1.86 | Ar | 0.20 |
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/08/6-15-11.jpg)
ประทุแบบไอซ์แลนด์ (Icelandic eruption) แมกมาบะซอลต์ ลาวาเหลว (VEI = 0-1) เป็นการปะทุตามรอยแยก (fissure eruption) ของแมกมาบะซอลต์ความหนืดต่ำ และไม่มีปากปล่องแน่ชัด ลาวาไหลหลากเหมือนกับน้ำท่วม เช่น ค.ศ. 1783 ภูเขา Laki ไอซ์แลนด์ ประทุตามแนวแตก ลาวาไหลหลาก 5,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/08/6-15-1.jpg)
ปะทุแบบพลิเนียน (Plinian eruption) แมกมาไรโอไรท์ ลาวาหนืด (VEI = 3-8) เป็นการปะทุอย่างรุนแรงของก๊าซและเศษหินพุ่งสูง 5-60 กิโลเมตร เช่น ภูเขาไฟเตาโป (Taupo) ในนิวซีแลนด์
![](http://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/08/6-15-4-1024x646.jpg)
เพิ่มเติม : 6 ลีลาการ ถ่ม-ถุย-ผุย-พ่น ของภูเขาไฟ
นอกจากนี้ ปริมาณของไอระเหยยังส่งผลต่อลักษณะของหินที่เกิดขึ้นด้วย ยิ่งไอระเหยมีมาก การปะทุรุนแรง หินจะยิ่งมีความเป็นรูพรุนมากขึ้นไปด้วย ตัวอย่างเช่น หินไรโอไรท์ (rhyolite) หรือหากแมกมาไรโอไรท์มีปริมาณก๊าซสูง เมื่อแข็งตัว หินจะมีรูพรุนมากคล้ายกับฟองน้ำ เนื้อฟอง (vesicular texture) เรียกว่า หินพัมมิซ (pumice) ซึ่งมีเนื้อสีขาว น้ำหนักเบาและลอยน้ำได้
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/10/6-18-2.jpg)
หินบะซอลต์ (basalt) เกิดจากการปะทุของแมกมาบะซอลต์ มีสีดำคล้ำเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งหากแมกมาเดิมมีไอระเหยมาก การประทุรุนแรงกว่าปกติ อาจทำให้เกิดหินที่มีองค์ประกอบคล้ายกับหินบะซอลต์แต่มีรูพรุนคล้ายกับฟองน้ำเหมือนกับหินพัมมิช ซึ่งนักธรณีวิทยาจำแนกและเรียกหินชนิดนี้แยกต่างหากว่า หินสคอเรีย (scoria)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/10/6-18-3.jpg)
เพิ่มเติม : สิ่งที่ภูเขาไฟผุยออกมา ไม่ได้มีลาวาแค่อย่างเดียว
3) ปริมาตร x ภูเขาไฟ
ปริมาตร (volume) หากแมกมามีปริมาณมาก จะทำให้การปะทุรุนแรงมากหรือยาวนานขึ้น โดยลาวาปริมาณน้อยจะทำให้เกิดเป็นภูเขาไฟลูกเล็กๆ เช่น ภูเขาไฟพนมรุ้ง ภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ แต่หากแมกมามีปริมาณมาก จะได้ ภูเขาไฟรูปโล่ (shield volcano) ขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว้าง (> 1,000 กิโลเมตร) เช่น ภูเขาไฟเมานาโลอา บนหมู่เกาะฮาวาย ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/07/3-8-1.jpg)
แต่ถ้าแหล่งแมกมามีปริมาณมหาศาล เช่นในกรณีของ จุดร้อน (hotspot) ซึ่งหากจุดร้อนเกิดขึ้นในทะเลจะเกิดเป็น แนวหมู่เกาะภูเขาไฟ (volcanic chain) แต่หากจุดร้อนเกิดขึ้นบนพื้นทวีปจะพบลักษณะแบบ ที่ราบสูงหินบะซอลต์ไหลหลาก (flood basalt plateau)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/08/3-8-5.jpg)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2020/09/3-8-8.jpg)
![](https://www.mitrearth.org/wp-content/uploads/2019/09/16-2-11.jpg)
เพิ่มเติม : หมู่เกาะภูเขาไฟฮาวาย-เอ็มเพอเรอร์ : ร่องรอยการเดินทางของแผ่นเปลือกโลก
. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth