
ภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวในภาคเหนือของไทย กับพื้นที่เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว
นอกจากรอยเลื่อนสะกาย ความเค้นทางธรณีแปรสัณฐานที่เกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกอินโด-ออสเตรเลียและแผ่นยูเรเซีย ยังถ่ายเทเข้ามาภายในแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ทางตะวันออกของประเทศพม่ารวมทั้งตอนเหนือของประเทศลาว ( Charusiri และคณะ, 2007) ทำให้เกิดรอยเลื่อนจำนวนมากวางตัวในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้และแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรอยเลื่อนส่วนใหญ่มีการเลื่อนตัวตามแนวราบและมีบางรอยเลื่อนที่เลื่อนตัวแบบปกติ เช่น รอยเลื่อนแม่จัน ในจังหวัดเชียงราย รอยเลื่อนปัว ในจังหวัดน่าน รอยเลื่อนลำปาง-เถิน ในจังหวัดลำปาง และรอยเลื่อนแม่ทา ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น

จากสถิติการเกิดแผ่นดินไหวในอดีตพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดแผ่นดินไหวในระดับที่สร้างภัยพิบัติหลายครั้ง เช่น แผ่นดินไหวขนาด 6.5 เมื่อวันที่ 13 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1935 ทางตอนเหนือของเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว แผ่นดินไหวขนาด 7.2 เมื่อวันที่ 11 เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1995 ทางตะวันออกของประเทศพม่า แผ่นดินไหวขนาด 6.3 เมื่อวันที่ 16 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 บริเวณรอยเลื่อนน้ำมา ชายแดนประเทศพม่า-ลาว โดยเฉพาะเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.3 เมื่อวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 ที่ส่งผลกระทบบริเวณกว้างต่อภาคเหนือของประเทศไทยและทางตะวันออกของประเทศพม่า ดังนั้นรอยเลื่อนในบริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-ลาว-พม่า จึงเป็นแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวสำคัญ ที่มีโอกาสสร้างภัยพิบัติแผ่นดินไหวต่อประเทศไทยและเพื่อนบ้าน ด้วยเหตุนี้ เพื่อที่จะประเมินพื้นที่เสี่ยงที่มีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวในระดับภัยพิบัติในพื้นที่กลุ่มรอยเลื่อนบริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-ลาว-พม่า Puangjaktha และ Pailoplee (2018) ได้วิเคราะห์ คะแนน RTL เพื่อประเมินภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวที่เป็น สัญญาณบอกเหตุ (precurser) ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด ≥ 6.0 Mw
โดยในการวิเคราะห์ Puangjaktha และ Pailoplee (2018) ได้ใช้ฐานข้อมูลแผ่นดินไหวจากหน่วยงาน ISC ที่ผ่านกระบวนการปรับปรุงฐานข้อมูลแผ่นดินไหว จนกระทั่งมีความสมบูรณ์ในทางสถิติและสื่อถึงพฤติกรรมการเกิดแผ่นดินไหวที่สัมพันธ์กับกระบวนการทางธรณีแปรสัณฐานอย่างแท้จริง ซึ่งหลังจากการทดสอบย้อนกลับในเบื้องต้นด้วย ตัวแปรอิสระ r0 และ t0 ที่แตกต่างกัน Puangjaktha และ Pailoplee (2018) พบว่าตัวแปรอิสระ r0 = 120 กิโลเมตร และ t0 = 2 ปี เป็นตัวแปรอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการวิเคราะห์คะแนน RTL ต่ำอย่างผิดปกติและสัมพันธ์กับการเกิดแผ่นดินไหว ≥ 6.0 Mw จำนวน 5 จาก 8 เหตุการณ์ ที่คัดเลือกเป็นกรณีศึกษา (ตารางด้านล่าง)
ซึ่งสืบเนื่องจากข้อมูลแผ่นดินไหวที่ใช้ในการวิเคราะห์มีอยู่อย่างจำกัดในช่วงปี ค.ศ. 1982-1990 การวิเคราะห์คะแนน RTL จึงไม่สามารถตรวจพบคะแนน RTL ต่ำอย่างผิดปกติก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 Mw ในปี ค.ศ. 1983 แผ่นดินไหวขนาด 6.3 Mw ในปี ค.ศ. 1984 และแผ่นดินไหวขนาด 6.2 Mw ในปี ค.ศ. 1989
ลำดับ | ลองจิจูด | ละติจูด | ความลึก (กิโลเมตร) | วัน/เดือน/ปี | ขนาด (Mw) | RTLmin | TRTL (ค.ศ.) | DRTL (ปี) |
1. | 102.58 | 21.36 | 49 | 24/06/1983 | 6.9 | – | – | – |
2. | 99.30 | 22.00 | 24 | 23/04/1984 | 6.3 | – | – | – |
3. | 98.91 | 20.43 | 10 | 28/09/1989 | 6.2 | – | – | – |
4. | 99.16 | 21.93 | 13 | 11/07/1995 | 7.2 | -0.68 | 1992.39 | 3.1 |
5. | 101.90 | 18.77 | 33 | 07/06/2000 | 6.5 | -0.90 | 2000.06 | 0.4 |
6. | 100.96 | 20.57 | 15 | 16/05/2007 | 6.9 | -0.65 | 2003.93 | 3.4 |
7. | 99.95 | 21.44 | 17 | 23/06/2007 | 6.1 | -0.65 | 1995.65 | 11.8 |
8. | 99.82 | 20.69 | 8 | 24/03/2011 | 7.2 | -1.00 | 2007.58 | 3.7 |
การทดสอบย้อนกลับเชิงเวลา
Puangjaktha และ Pailoplee (2018) วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเชิงเวลาของคะแนน RTL ที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว โดยวิเคราะห์ในทุก 10 วัน เริ่มต้นจากเวลาเริ่มต้นของข้อมูลแผ่นดินไหวที่ใช้ในการวิเคราะห์ (ค.ศ. 1982) ถึงเวลาเกิดกรณีศึกษาแผ่นดินไหวในแต่ละเหตุการณ์ (รูปด้านล่าง) เช่น รูป ก แสดงการเปลี่ยนแปลงเชิงเวลาของคะแนน RTL วิเคราะห์ที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 7.2 Mw พบว่าภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวเริ่มเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1992.31 หลังจากนั้นคะแนน RTL ลดลงอย่างรวดเร็วถึงระดับต่ำที่สุดในปี ค.ศ. 1992.39 (คะแนน RTL = -0.68) และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ภาวะปกติในปี ค.ศ. 1992.77 จนกระทั่งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 Mw เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1995 (3.1 ปี หลังจากตรวจพบภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหว)
ในส่วนของกรณีศึกษาแผ่นดินไหวขนาด 6.5 Mw เมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2000 (รูป ข) คะแนน RTL คงที่อยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1982.00-1992.73 หลังจากตรวจพบคะแนน RTL แปรผันเล็กน้อยในช่วงปี ค.ศ. 1992.74-2000.02 และลดลงอย่างรวดเร็วถึงระดับต่ำที่สุดในปี ค.ศ. 2000.6 (คะแนน RTL = -0.90) พร้อมกับเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.5 Mw ในปี ค.ศ. 2000 ในช่วงเวลาเดียวกันกับภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวที่ตรวจพบ (รูป ข)

รูป ค แสดงการเปลี่ยนแปลงเชิงเวลาของคะแนน RTL วิเคราะห์ที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 6.9 Mw เมื่อวันที่ 16 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 โดยตรวจพบภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวอย่างชัดเจน 3 ช่วงเวลา คือ ในช่วงปี ค.ศ. 1989.79-1991.81 ค.ศ. 1991.89-1992.73 และ ค.ศ. 2003.24-2004.28 และตรวจพบภาวะกระตุ้นแผ่นดินไหว 3 ช่วงเวลา ในช่วงปี ค.ศ. 1987.36-1988.97 ค.ศ. 1993.58-1995.65 และ ค.ศ. 1995.76-1996.76 แต่เนื่องจากคะแนน RTL ต่ำที่สุด = -0.65 เกิดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 2003.24-2004.28 Puangjaktha และ Pailoplee (2018) จึงประเมิน คะแนน RTL ต่ำที่สุด = -0.65 เป็นภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นประมาณ 3.4 ปี ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 Mw ดังกล่าว (รูป ค)
รูป ง ตรวจพบคะแนน RTL เริ่มลดลงในปี ค.ศ. 1995.49 และลดลงต่ำที่สุดในปี ค.ศ. 1995.65 (คะแนน RTL = -0.65) ซึ่งในเวลาต่อมาเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 Mw ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2007 (รูป ง) ส่วนในกรณีศึกษาแผ่นดินไหวขนาด 7.2 Mw เมื่อวันที่ 24 เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 (รูป จ) การเปลี่ยนแปลงคะแนน RTL แสดงภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวอย่างชัดเจน โดยเริ่มลดลงในปี ค.ศ. 2007.35 และลดลงถึงระดับต่ำที่สุดในปี ค.ศ. 2007.58 (คะแนน RTL = -1.00) และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสู่ภาวะปกติในปี ค.ศ. 2009.57 ซึ่งหลังจากนั้น 3.7 ปี จึงเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.2 Mw ดังกล่าว (รูป จ)
การทดสอบย้อนกลับเชิงพื้นที่
นอกจากนี้ Puangjaktha และ Pailoplee (2018) วิเคราะห์การกระจายตัวเชิงพื้นที่ของคะแนน RTL เพื่อสร้างแผนที่แสดงการกระจายตัวเชิงพื้นที่ของภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวบริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-ลาว-พม่า โดยแบ่งศึกษาเป็นพื้นที่ย่อยขนาด 25×25 ตารางกิโลเมตร และวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงคะแนน RTL เชิงเวลาในแต่ละพื้นที่ย่อย หลังจากนั้นวิเคราะห์คะแนน RTL เฉลี่ยตามสมการ (6.5) โดยพิจารณาช่วงเวลาการวิเคราะห์อยู่ในช่วง t1-t2 ที่วิเคราะห์ได้จากการทดสอบย้อนกลับเชิงเวลา (แถบสีเทาในรูปการเปลี่ยนแปลงเชิงเวลา) ซึ่งผลการวิเคราะห์การกระจายตัวเชิงพื้นที่ของคะแนน RTL ในแต่ละกรณีศึกษาแสดงในด้านล่าง
รูป ก การกระจายตัวเชิงพื้นที่ของคะแนน RTL วิเคราะห์ในช่วงปี ค.ศ. 1992.35-1992.85 แสดงภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองปั่น และครอบคลุมรอยเลื่อนจิงหง (Jinghong Fault; Lacassin และคณะ, 1998) รอยเลื่อนเม็งซิงและรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 7.2 Mw เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1995 พบว่าเกิดในพื้นที่แสดงคะแนน RTL ต่ำ ดังกล่าว
รูป ข แสดงการกระจายตัวเชิงพื้นที่ของคะแนน RTL ในช่วงปี ค.ศ. 2000.06-2000.40 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศลาวรวมทั้งบริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-ลาว โดยมีรอยเลื่อนสำคัญอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว 2 รอยเลื่อน คือ รอยเลื่อนเดียนเบียนฟู (Dein Bein Phu Fault; Zuchiewicz และคณะ, 2004; Nualkhao และคณะ, 2017) และรอยเลื่อนน้ำเป็ง (Nam Peng Fault; ปัญญา จารุศิริ และคณะ, 2542) ซึ่งในเวลาต่อมาเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.5 Mw เมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2000 ทางตอนใต้ของเมืองหลวงพระบางห่างจากพื้นที่แสดงคะแนน RTL ต่ำ ประมาณ 180 กิโลเมตร (รูป ข)

ในกรณีของเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.9 Mw เมื่อวันที่ 16 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 (รูป ค) จากการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงคะแนน RTL เชิงเวลาพบภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 2003.93-2004.81 ซึ่งการกระจายตัวเชิงพื้นที่ของคะแนน RTL ต่ำ ครอบคลุมพื้นที่ชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-ลาว ซึ่งจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 6.9 Mw ดังกล่าว เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงพระบาง ในบริเวณขอบของพื้นที่ความผิดปกติของคะแนน RTL (รูป ค) สำหรับรูป ง แสดงการกระจายตัวเชิงพื้นที่ของภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวซึ่งวิเคราะห์ในช่วงปี ค.ศ. 1995.45-1996.26 ตรวจพบความผิดปกติของคะแนน RTL ที่ชัดเจน (คะแนน RTL = -0.40) ยาวประมาณ 300 กิโลเมตร วางตัวอยู่ทางตะวันออกของประเทศพม่า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 6.1 Mw เมื่อวันที่ 23 เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2007 พบว่าเกิดในพื้นที่แสดงภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวดังกล่าว (รูป ง)
ในกรณีของรูป จ การกระจายตัวเชิงพื้นที่ของคะแนน RTL วิเคราะห์ในช่วงปี ค.ศ. 2007.38-2009.57 แสดงภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 350 ตารางกิโลเมตร บริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-พม่า โดยคะแนน RTL ต่ำที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเชียงรายซึ่งมีรอยเลื่อนแม่จันวางตัวอยู่ และหลังจากนั้นในช่วงปี ค.ศ. 2010-2015 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 2 เหตุการณ์ ในพื้นที่ใกล้เคียงความผิดปกติของคะแนน RTL ดังกล่าว (รูป จ) คือ แผ่นดินไหวขนาด 6.8 Mw เมื่อวันที่ 24 เดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 และแผ่นดินไหวขนาด 6.3 Mw เมื่อวันที่ 5 เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 สอดคล้องกับผลการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเชิงเวลาของคะแนน RTL โดย Puangjaktha และ Pailoplee (2017b) ซึ่งตรวจพบภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวอย่างชัดเจนประมาณ 2.5 ปี ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 Mw ดังกล่าว

นอกจากนี้เพื่อที่จะวิเคราะห์โอกาสเกิดภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหวหรือคะแนน RTL ระดับต่างๆ จากพฤติกรรมการเกิดแผ่นดินไหวแบบสุ่ม Puangjaktha และ Pailoplee (2018) สังเคราะห์ฐานข้อมูลแผ่นดินไหวด้วยวิธีการสุ่มจำนวน 10,000 ฐานข้อมูล ในพื้นที่เดียวกันและช่วงเวลาเดียวกันกับฐานข้อมูลแผ่นดินไหวที่ใช้ในการศึกษา และวิเคราะห์คะแนน RTL จากแต่ละฐานข้อมูลแผ่นดินไหวสังเคราะห์ ที่จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด ≥ 6.0 Mw ทั้ง 5 เหตุการณ์ที่พิจารณา หลังจากนั้นวิเคราะห์โอกาส (หน่วย %) ของคะแนน RTL ระดับต่างๆ ที่เกิดจากฐานข้อมูลแผ่นดินไหวที่เกิดจากการสุ่ม ซึ่งผลจากการเปรียบเทียบคะแนน RTL ที่ตรวจวัดได้ในแต่ละกรณีศึกษาแผ่นดินไหวพบว่าในกรณีของคะแนน RTL < -0.3 มีโอกาส > 80% ที่ความผิดปกติของคะแนน RTL ไม่ได้เกิดจากฐานข้อมูลแผ่นดินไหวที่เกิดจากการสุ่ม
ดังนั้น Puangjaktha และ Pailoplee (2018) จึงสรุปว่าระเบียบวิธีพื้นที่-เวลา-ความยาวรอยเลื่อนมีประสิทธิภาพในการตรวจวัดภาวะเงียบสงบแผ่นดินไหว ในพื้นที่กลุ่มรอยเลื่อนบริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-ลาว-พม่า และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการประเมินพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอนาคตจาก การวิเคราะห์ค่า b (Pailoplee และคณะ, 2013a) และจาก การวิเคราะห์ค่า Z (Puangjaktha และ Pailoplee, 2018) บ่งชี้ว่าพื้นที่ประมาณ 350 ตารางกิโลเมตร บริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย-พม่าเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในอนาคต
. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth