ลมค้า (trade wind) เป็นลมที่พัดมาจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตกในเขตร้อน ระหว่างละติจูด 30 องศาเหนือและ 30 องศาใต้ ลมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดสภาพภูมิอากาศ ระบบนิเวศ และแม้กระทั่งประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ในทางโบราณคดี ความเข้าใจเกี่ยวกับลมการค้าได้ช่วยให้เราเข้าใจเส้นทางการค้าของโบราณ รูปแบบการย้ายถิ่นฐาน และการพัฒนาของอารยธรรมมนุษย์ในอดีต บทความนี้จะสำรวจวิทยาศาสตร์ของลมการค้า ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของมัน และวิธีที่มันถูกนำไปใช้ในงานวิจัยโบราณคดีเพื่อค้นหาความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของมนุษย์ในอดีต

เพิ่มเติม : ลมของโลก และการหมุนเวียน

แบบจำลองแสดงการเคลื่อนที่ของลมโดยภาพรวมของโลก

วิทยาศาสตร์ลมค้า

ลมค้า (trade wind) เป็นส่วนหนึ่งของการหมุนเวียนของชั้นบรรยากาศโลก ซึ่งขับเคลื่อนโดย 1) การหมุนของโลก และ 2) การรับพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ไม่เท่ากันของพื้นผิวโลก ลมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการหมุนเวียนที่เรียกว่า ระบบเซลล์แฮดลีย์ (Hadley Cell) ซึ่งมีบทบาทในการเคลื่อนย้ายอากาศร้อนจากบริเวณเส้นศูนย์สูตรไปยังเขตร้อน ขณะที่การหมุนของโลกทำให้เกิดผลกระทบจาก คอริโอลิส (Coriolis Effect) ซึ่งทำให้ ลมเบี่ยงไปทางขวาในซีกโลกเหนือและทางซ้ายในซีกโลกใต้ ทำให้เกิดลมที่พัดจากทิศตะวันออกที่ลักษณะเฉพาะของเขตร้อน

ภาพตัดขวางแบบจำลองการไหลเวียนของลมบนโลก สีแดง หมายถึง ลมร้อน สีฟ้า หมายถึง ลมเย็น และลูกศรแสดงทิศทางการไหลเวียนของลม (ซ้าย) การหมุนเวียนของบรรยากาศ หากเชื่อว่าลมหมุนเวียนแบบเซลล์เดี่ยว (single-cell model) และโลกไม่หมุนรอบตัวเอง (ขวา) การหมุนเวียนของบรรยากาศตามแบบจำลองการหมุนเวียนอากาศแบบ 3 เซลล์ (three-cell model) และโลกมีการหมุนรอบตัวเอง ลูกศรสีส้ม คือ ทิศทางลมจริงๆ ในแนวระนาบ

เพิ่มเติม : ชนิดของ ลม

ในเขตร้อน ลมค้าจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือในซีกโลกเหนือและจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ในซีกโลกใต้ ซึ่งทำให้เกิดลมพัดในทิศทางที่ค่อนข้างคงที่ ลมเหล่านี้จะมีความแรงที่สุดที่ประมาณละติจูด 20 องศา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตความกดอากาศต่ำที่เรียกว่า ภูมิภาคการรวมตัวของเส้นศูนย์สูตร (ITCZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่โดยทั่วไปแล้ว ลมการค้ามักจะมีทิศทางและความแรงที่ค่อนข้างคงที่

ความคงที่ของลมค้าเป็นสิ่งสำคัญต่อมนุษย์ในประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง นักเดินเรือในสมัยโบราณ เช่น กะลาสีจากยุโรป เอเชีย และแอฟริกา ใช้ประโยชน์จากลมเหล่านี้ในการเดินทางข้ามมหาสมุทร โดยการเข้าใจลักษณะของลมค้า นักเดินเรือสามารถคาดการณ์ทิศทางลมและเส้นทางการเดินทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ลมค้าจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างเครือข่ายการค้าทางทะเลในยุคโบราณ

ประวัติศาสตร์ลมค้า

ลมค้า (trade wind) มีบทบาทสำคัญในการค้าระหว่างทวีปตลอดประวัติศาสตร์ ตัวอย่างที่เด่นที่สุดของลมค้าที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์ในอดีตคือในเส้นทางการค้าทางทะเลของอารยธรรมโบราณ

แผนภูมิมรสุมและลมสินค้า (ลมการค้า) ของมหาสมุทรอินเดีย จัดทำโดย สำนักอาวุธยุทโธปกรณ์และอุทกศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Bureau of Ordnance and Hydrography) ค.ศ. 1859 (ที่มา : https://blogs.loc.gov)

1) ยุคการสำรวจ (Age of Exploration) ในช่วงยุคการสำรวจ (ศตวรรษที่ 15 ถึง 17) นักสำรวจและพ่อค้าชาวยุโรปได้พึ่งพาลมค้าในการเดินทางไปยังดินแดนที่ห่างไกล เช่น ชาวโปรตุเกสและสเปนที่ใช้ลมค้าในการเดินทางไปยังทวีปอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย ลมค้าเป็นปัจจัยสำคัญในการตั้งเส้นทางการค้าระหว่างทวีปในยุคนั้น

2) เส้นทางสายไหม (Silk Road) และเส้นทางการค้าทางทะเล (Maritime Silk Route) ลมค้าไม่จำกัดอยู่แค่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ในมหาสมุทรอินเดีย ลมค้าช่วยในการเชื่อมโยงการค้าระหว่างแอฟริกา คาบสมุทรอาระเบีย อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลมมรสุมที่เกี่ยวข้องกับลมค้าช่วยให้เกิดเส้นทางการค้าทางทะเลที่เชื่อมโยงจีนกับส่วนอื่น ๆ ของโลก การเข้าใจลักษณะของลมเหล่านี้ทำให้พ่อค้าและนักเดินเรือสามารถตั้งเส้นทางการค้าที่ลดระยะเวลาในการเดินทางและเพิ่มกำไรได้

3) การนำทางของชาวโพลินีเซียน (Polynesian Navigation) หนึ่งในตัวอย่างที่น่าประทับใจที่สุดของการใช้ความเข้าใจเกี่ยวกับลมค้าคือเทคนิคการนำทางของชาวโพลินีเซียน พวกเขาสามารถใช้ลมและกระแสน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกในการสำรวจและตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ที่ห่างไกล เช่น เกาะที่ห่างไกลหลายพันไมล์จากกัน การเข้าใจลมการค้าและทักษะในการอ่านสัญญาณจากมหาสมุทรช่วยให้ชาวโพลินีเซียนสร้างเครือข่ายของเกาะที่เชื่อมโยงกันอย่างน่าทึ่ง

ลมค้า x โบราณคดี

ในการศึกษาทางโบราณคดี ความเข้าใจเกี่ยวกับลมค้า (trade wind) และผลกระทบของมันต่ออารยธรรมโบราณมีประโยชน์ในหลายด้าน นักโบราณคดีใช้ความรู้เกี่ยวกับลมค้าในการหาทางการค้าโบราณ การแพร่กระจายของความคิดและเทคโนโลยี และการเคลื่อนย้ายของผู้คน การศึกษาเกี่ยวกับลมโบราณช่วยให้เราเข้าใจว่าอารยธรรมโบราณปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและกันอย่างไร

1) การติดตามเส้นทางการค้าโบราณ หนึ่งในการประยุกต์ใช้ลมค้าในโบราณคดีคือการติดตามเส้นทางการค้าโบราณ นักโบราณคดีใช้การศึกษาลักษณะลมในการค้นหาทางการค้าในอดีต ตัวอย่างเช่น อารยธรรมโบราณในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เช่น อียิปต์ ฟีนีเซีย และกรีก ได้ใช้ประโยชน์จากลมในการพายเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและขยายการค้าไปยังดินแดนต่าง ๆ ลมค้าร่วมกับกระแสน้ำช่วยให้การเดินเรือมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การศึกษาซากเรือโบราณ วัตถุทางทะเล และเมืองท่าที่เก่าแก่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการค้าเหล่านี้ การวิเคราะห์วัสดุต่าง ๆ ที่พบในซากเรือและเมืองท่าโบราณสามารถบ่งชี้ถึงแหล่งที่มาของสินค้าและเส้นทางที่มันเคยเดินทางมา

แผนที่เดินเรือโลก (Nautical Atlas of the World) : มหาสมุทรอินเดียตอนเหนือ พร้อมคาบสมุทรอาหรับและอินเดีย จัดทำโดย จอร์จ เรเนล และคณะ (Jorge Reinel et al.), ค.ศ. 1519 หอสมุดดิจิทัลโลก (World Digital Library) (ที่มา : https://blogs.loc.gov)

2) การเข้าใจการแพร่กระจายของวัฒนธรรมและความคิด ลมค้ายังมีบทบาทในการกระจายวัฒนธรรมและความคิด เส้นทางการค้าก็ไม่ใช่แค่เส้นทางการส่งสินค้าหรือการแลกเปลี่ยนทรัพยากรทางธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางที่ช่วยในการแลกเปลี่ยนความคิด เทคโนโลยี และการปฏิบัติทางวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น การแพร่กระจายของศาสนาฮินดูและพุทธศาสนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเชื่อมโยงได้กับเส้นทางการค้าทางทะเลที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมและลมค้า ในทวีปอเมริกา การมีสินค้าหายาก เช่น เปลือกหอยจากชายฝั่งแปซิฟิกในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา บ่งชี้ถึงการค้าในระยะทางยาวที่อาจได้รับอิทธิพลจากลมค้า การเคลื่อนย้ายสินค้าและความคิดข้ามระยะทางยาวเช่นนี้ต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับลมและกระแสน้ำ

เพิ่มเติม : ชั้นน้ำและการเคลื่อนที่ของมวลน้ำในมหาสมุทร

แบบจำลองการหมุนเวียนของกระแสน้ำพื้นผิวในมหาสมุทร

3) การย้ายถิ่นและรูปแบบการตั้งถิ่นฐาน การย้ายถิ่นของผู้คนในอดีตยังสามารถเชื่อมโยงกับลมค้าได้ การแพร่กระจายของชนเผ่าที่พูดภาษาออสโตรนีเซียไปยังเกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น หมู่เกาะมาดากัสการ์ ฟิลิปปินส์ และเกาะอีสเตอร์ ได้รับการช่วยเหลือจากการเข้าใจในลมค้าและกระแสน้ำ พวกเขาสามารถตั้งถิ่นฐานในเกาะที่ห่างไกลได้โดยใช้ลมการค้า

ในแอฟริกา ลมการค้าก็มีบทบาทในการเคลื่อนย้ายผู้คนเช่นกัน เส้นทางการค้าภายในทะเลทรายซาฮารา ซึ่งมีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนสินค้าหลายชนิด ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมและลมการค้า ซึ่งช่วยให้ขบวนคาราวานสามารถเดินทางข้ามทะเลทรายได้

โดยสรุป วิทยาศาสตร์ของลมค้ามีผลกระทบที่กว้างขวางไม่เพียงแต่ในด้านอุตุนิยมวิทยา แต่ยังในแง่ของการเข้าใจประวัติศาสตร์ของมนุษย์และมนุษยชาติ การศึกษาลักษณะของลมการค้าได้ช่วยให้นักโบราณคดีสามารถติดตามเส้นทางการค้าของโบราณ การแพร่กระจายของวัฒนธรรม และการย้ายถิ่นฐานของผู้คน การศึกษาเกี่ยวกับลมโบราณเปิดโอกาสให้เราเข้าใจถึงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอารยธรรมโบราณ การประยุกต์ใช้ลมการค้าในโบราณคดีช่วยให้เราเข้าใจการเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ในอดีต และยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเปิดเผยความลับเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมที่ผ่านมาของมนุษยชาติ

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth

Share: