ละติจูดม้า (Horse Latitudes) เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจและมักถูกเข้าใจผิด โดยเป็นพื้นที่ที่มีลมเบาและความกดดันสูงอยู่รอบ ๆ 30 องศาเหนือและใต้เส้นศูนย์สูตร ปรากฏการณ์เหล่านี้มีความสำคัญในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในช่วงยุคของการเดินเรือและการสำรวจ บทความนี้จะสำรวจทั้งด้านวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ของละติจูดม้า รวมถึงผลกระทบของมันที่มีต่อการเดินเรือและการค้าในอดีต

วิทยาศาสตร์ของละติจูดม้า

คำว่า ละติจูดม้า (Horse Latitudes) หมายถึง พื้นที่ที่มีลมสงบและความกดดันสูงที่อยู่ประมาณ 30 องศาเหนือและใต้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งพื้นที่เหล่านี้จะมีลมเบาและมีอากาศแห้งและมีฝนน้อย วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับละติจูดม้าสามารถเข้าใจได้จากการเคลื่อนไหวของชั้นบรรยากาศ กระแสน้ำในมหาสมุทร และการหมุนของโลก

เพิ่มเติม : ลมของโลก และการหมุนเวียน

ภาพวาดตามจินตนาการ แสดงวัฒนธรรมการแล่นเรือในสมัยโบราณ ที่บางครั้งจำเป็นต้องโยนสัมภาระรวมทั้งม้าทิ้งลงทะเล เพื่อลดน้ำหนักตัวเรือ ให้เรือสามารถเดินทางต่อไปได้ ในกรณีที่กระแสลมเบาบางหรือลมสงบ

การหมุนเวียนของชั้นบรรยากาศและเขตความกดดันสูงในเขตร้อน

เพื่อที่จะเข้าใจละติจูดม้า ต้องเริ่มต้นด้วยการพิจารณาการหมุนเวียนของชั้นบรรยากาศของโลก การหมุนของโลกและการรับความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ไม่เท่ากันทำให้เกิดระบบการเคลื่อนไหวของอากาศที่ซับซ้อน เส้นศูนย์สูตรจะได้รับแสงแดดโดยตรงมากที่สุด ทำให้อากาศร้อนและลอยตัวขึ้น เกิดบริเวณความกดดันต่ำที่เรียกว่า Intertropical Convergence Zone (ITCZ)

https://www.globe.gov/explore-science/scientists-blog/archived-posts/sciblog/index.html_p=1661.html

เมื่ออากาศร้อนลอยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ มันจะเย็นตัวลงและเริ่มตกกลับลงมาในเขตร้อนที่ประมาณ 30 องศาเหนือและใต้ ซึ่งทำให้เกิดบริเวณความกดดันสูงที่เรียกว่า Subtropical High อากาศที่ตกลงมานี้ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งและมีความสงบ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ละติจูดม้าถูกลักษณะโดยลมที่เบาและฝนน้อย

ความกดดันสูงในละติจูดม้าคงที่อยู่เสมอ เนื่องจากอากาศกำลังตกลงแทนที่จะลอยขึ้น ซึ่งทำให้เมฆมีน้อยและฝนตกน้อย ทำให้พื้นที่นี้มีสภาพอากาศที่ค่อนข้างคงที่และสงบ ซึ่งทำให้ยากสำหรับเรือที่ใช้ลมในการเดินเรือ

แบบจำลองแสดงการเคลื่อนที่ของลมโดยภาพรวมของโลก

กระแสน้ำในมหาสมุทรและผลกระทบต่อทิศทางลม

กระแสน้ำในมหาสมุทรมีบทบาทสำคัญในรูปแบบของสภาพอากาศที่ละติจูดม้า กระแสน้ำที่อุ่นจากเขตร้อนจะเคลื่อนตัวไปยังละติจูดที่สูงขึ้น และเมื่อพบกับน้ำที่เย็นกว่าในเขตใต้สุด มันจะสร้างกระแสน้ำขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของมวลอากาศในชั้นบรรยากาศ การกระทำของกระแสน้ำเหล่านี้ทำให้สภาพอากาศในละติจูดม้ามีความสงบและไม่แน่นอน

นอกจากนี้ยังมีการพบปะระหว่างกระแสน้ำสองกระแสหลักคือ North Atlantic Subtropical Gyre ในซีกโลกเหนือและ South Atlantic Subtropical Gyre ในซีกโลกใต้ ซึ่งเป็นการรวมตัวของกระแสน้ำที่ช่วยเสริมความสงบของลมและสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนในละติจูดม้า

เพิ่มเติม : ชนิดของ ลม

เพิ่มเติม : ชั้นน้ำและการเคลื่อนที่ของมวลน้ำในมหาสมุทร

นักวิทยาศาสตร์ได้จำแนกกระแสน้ำขนาดใหญ่ที่พื้นผิวมหาสมุทร ตามแหล่งกำเนิดและความแตกต่างของอุณหภูมิได้ 5 วง (gyre) ได้แก่ 1) วงแปซิฟิกเหนือ (North Pacific Gyre) 2) วงแปซิฟิกใต้ (South Pacific Gyre) 3) วงแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Gyre) 4) วงแอตแลนติกใต้ (South Atlantic Gyre) และ 5) วงมหาสมุทรอินเดีย (Indian Gyre)

แบบจำลองการหมุนเวียนของกระแสน้ำพื้นผิวในมหาสมุทร

ภาพตัดขวางแบบจำลองการไหลเวียนของลมบนโลก สีแดง หมายถึง ลมร้อน สีฟ้า หมายถึง ลมเย็น และลูกศรแสดงทิศทางการไหลเวียนของลม (ซ้าย) การหมุนเวียนของบรรยากาศ หากเชื่อว่าลมหมุนเวียนแบบเซลล์เดี่ยว (single-cell model) และโลกไม่หมุนรอบตัวเอง (ขวา) การหมุนเวียนของบรรยากาศตามแบบจำลองการหมุนเวียนอากาศแบบ 3 เซลล์ (three-cell model) และโลกมีการหมุนรอบตัวเอง ลูกศรสีส้ม คือ ทิศทางลมจริงๆ ในแนวระนาบ

ผลกระทบของปรากฏการณ์ Coriolis

Coriolis Effect หรือ “ผลกระทบของการหมุนของโลก” เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหมุนของโลก ทำให้มวลอากาศถูกเบี่ยงเบนไปทางขวาในซีกโลกเหนือและทางซ้ายในซีกโลกใต้ ผลกระทบนี้มีบทบาทในการสร้าง Trade Winds ใกล้เส้นศูนย์สูตรและ Westerlies ในเขตรอบ ๆ 60 องศาเหนือและใต้

ที่ละติจูดม้า ผลกระทบของ Coriolis จะมีน้อยลงเนื่องจากบริเวณความกดดันสูง ส่งผลให้ลมที่พัดในบริเวณนี้มีความเบาและไม่แน่นอน ทำให้สภาพอากาศในละติจูดม้าสงบและไม่คงที่

Coriolis Effect

ประวัติศาสตร์ละติจูดม้า

แม้ว่าคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์จะช่วยให้เข้าใจลักษณะทางอากาศของละติจูดม้าได้ แต่ความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้ก็ไม่สามารถมองข้ามได้ ละติจูดม้ามามีบทบาทสำคัญในช่วงเวลาของการสำรวจ การค้า และการพัฒนานาวาเทคนิคในอดีต

การตั้งชื่อ ละติจูดม้า (Horse Latitudes) คำว่า “Horse Latitudes” มีที่มาจากเรื่องราวที่น่าสลดใจในประวัติศาสตร์การเดินเรือในยุคที่การเดินเรือยังต้องพึ่งพาลมเป็นหลัก ในช่วงศตวรรษที่ 16-18 นักเดินเรือมักจะพบตัวเองติดอยู่ในน้ำที่สงบในละติจูดม้า ซึ่งพวกเขาจะล่องเรือโดยไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้เพราะขาดลม การตั้งชื่อ “Horse Latitudes” เชื่อว่ามาจากเหตุการณ์ที่เรือที่มีการขนส่งม้าหรือสัตว์ใหญ่ต้องโยนม้าออกจากเรือเพื่อประหยัดน้ำและทรัพยากรอื่น ๆ ทำให้ม้าหลายตัวจมน้ำไปในช่วงที่เรือไม่สามารถเดินทางไปได้

มีทฤษฎีหลายข้อเกี่ยวกับที่มาของชื่อ หนึ่งในทฤษฎีคือ ชื่อนี้มาจากการที่เรือขว้างม้าลงทะเลเพื่อลดน้ำหนักของเรือในช่วงที่ติดอยู่ในบริเวณลมสงบ อีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า ชื่อนี้เกิดจากการที่สภาพอากาศที่สงบทำให้ม้าบนเรือไม่สามารถมีชีวิตรอดได้เพราะขาดน้ำ

การเชื่อมโยงระหว่างละติจูดม้าและความยากลำบากในการเดินเรือในยุคการสำรวจและการค้าอาทิเช่น การค้าเป็นทาสในมหาสมุทรแอตแลนติก เน้นถึงความยากลำบากในการเดินทางและความสำคัญของการหลีกเลี่ยงพื้นที่เหล่านี้

อิทธิพลต่อการเดินเรือ

ในยุคของเรือใบ ละติจูดม้ามีความท้าทายอย่างมากสำหรับนักเดินเรือ ก่อนที่เครื่องจักรไอน้ำจะเกิดขึ้น เรือใบต้องพึ่งพาลมเป็นหลักในการเดินทาง เมื่อเรือเจอกับละติจูดม้า พวกเขาจะติดอยู่ในสภาพอากาศสงบเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ซึ่งทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ สิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่ในการเดินเรือระยะยาว เช่น การเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกหรือระหว่างยุโรป, แอฟริกา และอเมริกา

ละติจูดม้าคือพื้นที่ที่นักเดินเรือหลายคนพยายามหลีกเลี่ยงให้ได้ พวกเขาจะพยายามหาทางเดินทางไปทางเหนือหรือใต้เพื่อหาลมที่ดีขึ้นหรือลมที่พัดตามทิศทางการค้า ในศตวรรษที่ 16 และ 17 การสำรวจและอาณานิคมของยุโรปได้รับผลกระทบจากความท้าทายที่ละติจูดม้า พวกเขาต้องวางแผนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการติดอยู่ในบริเวณนี้ การมีทักษะในการเดินเรือผ่านละติจูดม้าถือเป็นกุญแจสำคัญในการสำรวจและการค้า

ยุคของเครื่องจักรไอน้ำและบทบาทของละติจูดม้าที่ลดลง

การพัฒนาเรือที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำในศตวรรษที่ 19 ทำให้ผลกระทบของละติจูดม้าลดลงอย่างมาก เรือไอน้ำไม่พึ่งพาลมในการเดินทาง ทำให้สามารถผ่านละติจูดม้าได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลมสงบ ซึ่งช่วยเปลี่ยนแปลงการค้าและการขนส่งระหว่างทวีปอย่างมาก แม้ว่าผลกระทบของละติจูดม้าจะลดลง แต่พื้นที่เหล่านี้ยังคงเป็นส่วนสำคัญของระบบการหมุนเวียนของชั้นบรรยากาศและกระแสน้ำในมหาสมุทรของโลก เทคโนโลยีดาวเทียมและการพยากรณ์อากาศในปัจจุบันทำให้เราเข้าใจละติจูดม้ามากขึ้นและสามารถหลีกเลี่ยงได้เมื่อจำเป็น

ละติจูดม้าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและซับซ้อน ซึ่งมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ของอากาศและประวัติศาสตร์การเดินเรือ ตั้งอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเหนือและใต้เส้นศูนย์สูตร พื้นที่เหล่านี้มีสภาพอากาศที่สงบ ลมเบา และฝนน้อย วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับละติจูดม้าสามารถเข้าใจได้จากการเคลื่อนไหวของชั้นบรรยากาศ กระแสน้ำในมหาสมุทร และผลกระทบของการหมุนของโลก

ในประวัติศาสตร์ ละติจูดม้าคือความท้าทายอย่างมากสำหรับนักเดินเรือและนักสำรวจ ชื่อนี้ยังคงเชื่อมโยงกับการยากลำบากในการเดินทางและการต้องเสียชีวิตของสัตว์เลี้ยงบนเรือ การพัฒนาเรือเครื่องจักรไอน้ำในยุคศตวรรษที่ 19 ทำให้ผลกระทบของละติจูดม้าลดลง แต่พื้นที่เหล่านี้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของระบบธรรมชาติที่สำคัญของโลกและประวัติศาสตร์การเดินเรือ

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth

Share: